ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ (4 มิ.ย.) พลิกกลับมาปรับตัวขึ้นได้สำเร็จหลังร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ หลังจากที่หุ้นกลุ่มเดียวกันปรับตัวขึ้นที่ตลาดสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ ขานรับความต้องการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ยังคงแข็งแกร่ง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 37,747.45 จุด เพิ่มขึ้น 300.64 จุด หรือ +0.80%
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นนำตลาดได้แก่ กลุ่มเยื่อกระดาษและกระดาษ กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันและถ่านหิน รวมถึงกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์
โบรกเกอร์ให้ข้อมูลว่า หุ้นชิปรายใหญ่ดึงดูดแรงซื้อ หลังจากเมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms Inc.) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีสหรัฐฯ ประกาศบรรลุข้อตกลงซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เพื่อรองรับความต้องการพลังงานมหาศาลสำหรับระบบ AI และศูนย์ข้อมูลที่กำลังเติบโต
มาซาฮิโระ อิชิกาวะ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของบริษัท ซูมิโตโม มิตซุย ดีเอส แอสเซต แมเนจเมนต์ ให้ความเห็นว่า "ดีมานด์ AI ที่แข็งแกร่งเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้น และมีความหวังว่าสหรัฐฯ อาจทบทวนมาตรการจำกัดการส่งออกชิปไปยังจีน หากความตึงเครียดระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจคลี่คลายลง"
"ทิศทางความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์" อิชิกาวะกล่าวเสริม
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากหุ้นกลุ่มยานยนต์และกลุ่มเครื่องจักรที่ปรับตัวขึ้นขานรับเงินเยนอ่อนค่า ซึ่งส่งผลดีต่อกำไรของผู้ส่งออกเมื่อแลกกลับเป็นเงินเยน
บรรยากาศการลงทุนโดยรวมยังได้รับปัจจัยบวกจากความคาดหวังความคืบหน้าในการเจรจาภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งคาดว่าผู้นำทั้งสองฝ่ายจะมีการหารือกันในเร็ว ๆ นี้ ส่วนประเด็นที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมเป็น 50% ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันนี้นั้น โบรกเกอร์มองว่าแทบไม่ส่งผลกระทบต่อตลาด