ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นในวันพุธ (11 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนประเมินผลกระทบจากการทบทวนงบประมาณรายจ่ายภาครัฐล่าสุดของสหราชอาณาจักร ร่วมกับสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ และข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ต่ำกว่าคาด
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,864.35 จุด เพิ่มขึ้น 11.27 จุด หรือ +0.13%
ดัชนี FTSE 100 ปิดใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาล โดยอยู่ห่างเพียงราว 45 จุด
ราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีคลังสหราชอาณาจักร ได้ประกาศแผนงบประมาณรายวันของแต่ละกระทรวงตั้งแต่ปี 2569 ถึง 2572 และแผนการลงทุนระยะยาวถึงปี 2573 โดยเน้นการใช้จ่ายในด้านสาธารณสุข การป้องกันประเทศ และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
รีฟส์ยังประกาศการลงทุนเพิ่มเติม 1 หมื่นล้านปอนด์ เพื่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้นหลายพันหลังในอังกฤษ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และสินค้าอุปโภคบวกขึ้น 1.5%
ตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับแรงหนุนช่วงเช้าหลังการเปิดเผยข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน พ.ค. เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ช่วยเพิ่มความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจลดดอกเบี้ยลงเร็วที่สุดในเดือนก.ย.
บรรดานักลงทุนยังคงคาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในการประชุมสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม ตลาดแทบไม่ขยับหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวว่า ข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเสร็จสมบูรณ์แล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนตกลงกรอบความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูข้อตกลงสงบศึกด้านการค้า
ดัชนีกลุ่มหุ้นอากาศยานและการป้องกันประเทศปิดบวก 0.7%
ในทางกลับกัน หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะอุตสาหกรรมลดลง 1% ตามราคาทองแดงที่ปรับตัวลง