ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ (16 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มส่งออก หลังจากเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ อาจพุ่งสูง และส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 38,311.33 จุด เพิ่มขึ้น 477.08 จุด หรือ +1.26%
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นในวันนี้นำโดยหุ้นกลุ่มค้าส่ง กลุ่มโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็ก ตลอดจนกลุ่มสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
ดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดในบางช่วง โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มส่งออก เช่น ยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงส่งผลดีโดยตรงต่อผลประกอบการ เพราะเมื่อบริษัทนำกำไรจากต่างประเทศกลับเข้าประเทศ จะสามารถแลกเป็นเงินเยนได้ในมูลค่าที่สูงขึ้น ขณะเดียวกัน นักลงทุนมองว่าผลกระทบโดยตรงจากความขัดแย้งในตะวันออกกลางต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังมีจำกัด
"การที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นในวันนี้ อาจไม่ได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริง" มากิ ซาวาดะ นักกลยุทธ์ในแผนกเนื้อหาการลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์โนมูระกล่าว พร้อมเสริมว่า หากอิหร่านเคลื่อนไหวเพื่อปิดช่องแคบฮอร์มุซซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันสายสำคัญ จะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทต่าง ๆ มีต้นทุนเพิ่มขึ้นและกดดันต่อผลประกอบการ
สำหรับหุ้นเด่นรายตัวอย่างนิปปอน สตีล (Nippon Steel) ราคาพุ่งขึ้นถึง 1.53% หลังมีข่าวดีเมื่อวันศุกร์ (13 มิ.ย.) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้ให้การอนุมัติแผนการเข้าซื้อกิจการบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่างยูไนเต็ด สเตทส์ สตีล (United States Steel)