ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นเกือบ 300 จุด ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านจะไม่ลุกลามกลายเป็นสงครามในระดับภูมิภาค
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่ราคาน้ำมันปรับตัวลง ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ
ณ เวลา 19.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 283 จุด หรือ 0.67% สู่ระดับ 42,806 จุด
ราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงกว่า 1% หลุดระดับ 72 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันนี้ หลังจากพุ่งทะลุ 77 ดอลลาร์/บาร์เรลก่อนหน้านี้
ตลาดจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยคาดว่าสงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่านจะเกิดขึ้นในวงจำกัด โดยไม่ลุกลามกลายเป็นสงครามในระดับภูมิภาค ขณะที่ล่าสุดตุรกีและรัสเซียเสนอตัวเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน
นอกจากนี้ รัสเซียระบุว่าพร้อมดำเนินการตามข้อเสนอเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในการนำแร่ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะในระดับสูงออกจากอิหร่าน และนำไปยังรัสเซียเพื่อแปรรูปให้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเตาปฏิกรณ์พลเรือน ซึ่งอาจเป็นทางออกสำหรับวิกฤตการณ์ในครั้งนี้
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมรอบนี้
นอกจากนี้ ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด หลังเสร็จสิ้นการประชุม เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ รวมทั้งจับตารายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อัตราว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ รายงาน Dot Plot ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ในปีนี้ และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ในปี 2569 และลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในปี 2570