ดาวโจนส์พลิกร่วงแดนลบ นักลงทุนไม่ตอบรับ "ทรัมป์" ชะลอโจมตีอิหร่าน

ข่าวต่างประเทศ Saturday June 21, 2025 00:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พลิกร่วงลงสู่แดนลบ โดยนักลงทุนไม่ได้ตอบรับในเชิงบวกต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศชะลอการโจมตีอิหร่าน

ณ เวลา 00.36 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 42,134.54 จุด ลบ 37.12 จุด หรือ 0.09%

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ประกาศวานนี้ว่า เขาจะขอเวลา 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะทำการโจมตีอิหร่านหรือไม่ และเพื่อเปิดโอกาสสำหรับช่องทางการทูตในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน

"จากข้อเท็จจริงที่ว่า ยังคงมีโอกาสอย่างมากสำหรับการเจรจากับอิหร่านในอนาคตอันใกล้ หรืออาจจะไม่มี ผมจะตัดสินใจว่าจะทำการโจมตีหรือไม่ภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า" ปธน.ทรัมป์กล่าว

อย่างไรก็ดี นักลงทุนไม่ได้มองในแง่บวกที่ว่า การเลื่อนการตัดสินใจดังกล่าวออกไปอีก 2 สัปดาห์ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้มีการเจรจาทางการทูตเพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งก็คือการที่อิหร่านถูกโจมตีจนต้องประกาศปิดช่องแคบฮอร์มุซ และทำให้ราคาน้ำมันพุ่งไปแตะ 130 ดอลลาร์/บาร์เรล

แต่นักลงทุนมองว่า การเลื่อนเวลาออกไปอีก 2 สัปดาห์ ถือเป็นการเลื่อนปัญหาออกไป โดยสิ่งที่ตลาดไม่ต้องการมากที่สุด ไม่ใช่การขยายความขัดแย้ง แต่เป็นความไม่แน่นอนที่ยืดเยื้อออกไปโดยไร้ข้อสรุปที่ชัดเจน

"นั่นหมายความว่าตลาดการเงินจะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนต่อไปอีก 2 สัปดาห์ แต่นักลงทุนก็ยังมองว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางเป็นปัญหาระดับภูมิภาค ไม่ใช่ปัญหาระดับโลก" นายพอล โดโนแวน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ UBS ระบุในรายงาน

การตัดสินใจที่ล่าช้าของปธน.ทรัมป์ในครั้งนี้เกี่ยวกับการทำสงครามกับอิหร่าน ได้สะท้อนถึงการดำเนินการที่ผ่านมาทั้งในเรื่องภาษีศุลกากร, TikTok ซึ่งเขาเพิ่งลงนามในคำสั่งวานนี้ให้ขยายเวลาขายกิจการออกไปอีก 90 วัน และขณะนี้ก็เป็นกรณีเกี่ยวกับอิหร่าน

สื่อเรียกปรากฎการณ์ที่ปธน.ทรัมป์มักทำการตัดสินใจกลับไปกลับมาว่า "TACO trade" (Trump Always Chickens Out) ซึ่งหากแปลตรงตัวก็คือ "ทรัมป์มักปอดแหก" หรือมักจะลังเล ไม่กล้าลงมือ และสุดท้ายก็ถอย แต่สำหรับตลาดการเงินแล้ว ปรากฎการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ถึงการขาดความชัดเจน ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจและนักลงทุนต้องหยุดชะงักในการตัดสินใจ

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในช่วงแรก ขานรับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ ประกาศชะลอการโจมตีอิหร่าน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และเป็นสมาชิกถาวรของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) สนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค.

นายวอลเลอร์กล่าวว่า เขาไม่คิดว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น เจ้าหน้าที่เฟดควรพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ค.

นายวอลเลอร์กล่าวว่า เฟดควรเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อไม่ได้เป็นภัยคุกคามสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐอีกต่อไป

"ผมคิดว่าเรากำลังอยู่ในจุดที่สามารถทำเช่นนั้นได้ และอาจเริ่มดำเนินการอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ค. นี่คือมุมมองของผม ไม่ว่าคณะกรรมการเฟดจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม" นายวอลเลอร์กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ Squawk Box ของสำนักข่าว CNBC

นอกจากนี้ นายวอลเลอร์กล่าวว่า เขาคิดว่าเฟดควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อหลีกเลี่ยงการชะลอตัวของตลาดแรงงาน

"ถ้าคุณเริ่มกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในช่วงขาลงของตลาดแรงงาน ก็ไม่ควรรออีกต่อไป ทำไมเราต้องรอจนกว่าจะเกิดวิกฤติการจ้างงานก่อนที่จะเริ่มลดดอกเบี้ย ผมจึงสนับสนุนความคิดที่ว่า บางทีเราควรเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งถัดไป เพราะเราคงไม่ต้องการรอจนกว่าตลาดแรงงานจะทรุดตัวลง ก่อนที่เราจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย" นายวอลเลอร์กล่าว

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด มีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันอังคารที่ 24 มิ.ย. ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพุธที่ 25 มิ.ย.

การกล่าวแถลงการณ์ทั้ง 2 วันจะมีขึ้นในเวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย

นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้

ทั้งนี้ รายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ในการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ในปีนี้, ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในปี 2569 และลดอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในปี 2570 โดย Dot Plot บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งหมด 4 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 1% ในช่วงปี 2568-2570


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ