ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (23 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะตอบโต้ หลังจากสหรัฐฯ และอิสราเอลเปิดฉากโจมตีสถานที่ด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านร่วมกันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 535.03 จุด ลดลง 1.50 จุด หรือ -0.28%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,537.57 จุด ลดลง 52.09 จุด หรือ -0.69%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,269.01 จุด ลดลง 81.54 จุด หรือ -0.35% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,758.04 จุด ลดลง 16.61 จุด หรือ -0.19%
ดัชนี STOXX 600 แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือนในช่วงต้นการซื้อขาย หลังมีรายงานข่าวระบุว่า อิหร่านอาจโจมตีกองกำลังของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางในไม่ช้า แม้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จะเร่งหาทางออกทางการทูตเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง
ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นหลังเครื่องบินรบของสหรัฐฯ เข้าร่วมกับอิสราเอลในการทิ้งระเบิดใส่สถานที่ด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้อิหร่านประณามประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่าเป็นผู้ที่ทำให้สถานการณ์บานปลาย
ท่ามกลางการโจมตีทางอากาศระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่ยังไม่มีท่าทีจะยุติ ตลาดที่หวั่นวิตกเตรียมรับมือความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะตอบโต้ด้วยการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญที่สุดของโลก
นักลงทุนเร่งเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาทองคำและพันธบัตรยูโรโซนปรับตัวขึ้น ขณะที่หุ้นในกลุ่มสาธารณูปโภค ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นทางเลือกแทนพันธบัตร ปรับตัวดีกว่ากลุ่มอื่น ๆ ในดัชนี STOXX 600
แหล่งข่าวระบุว่า เยอรมนีจะเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมเป็น 3.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศภายในปี 2572 โดยจะใช้เงินจากโครงการกู้ยืมเกือบ 4 แสนล้านยูโร
แต่หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมการบินและกลาโหมของยุโรป ลดลง 0.7%
ในอีกด้านหนึ่ง เส้นตายวันที่ 8 ก.ค.สำหรับการระงับการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ก็ใกล้เข้ามาโดยยังไม่มีความคืบหน้าในข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ มีเพียงข้อตกลงอย่างเป็นทางการระหว่างสหรัฐฯ กับสหราชอาณาจักรเท่านั้น
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจ ตัวเลขล่าสุดแสดงว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนแทบไม่เติบโตเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในเดือนมิ.ย. โดยภาคบริการซึ่งเป็นภาคหลักของภูมิภาค มีสัญญาณดีขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะที่ภาคการผลิตไม่มีแนวโน้มฟื้นตัวเลย
ผลสำรวจอีกชุดหนึ่งพบว่า กิจกรรมทางธุรกิจของอังกฤษขยายตัวเล็กน้อยในเดือนมิ.ย.
หุ้นกลุ่มธุรกิจประกันภัย ลดลง 1% โดยถูกกดดันจากหุ้นของบริษัทมิวนิก รี (Munich RE) ที่ร่วงลง 4% หลังจากบริษัทมอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) ปรับลดคำแนะนำลงทุนจาก "ถือ" เป็น "ลดน้ำหนักลงทุน"
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับขึ้นเกือบ 1% ซึ่งช่วยลดช่วงติดลบของตลาด