ตลาดหุ้นยุโรปปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ในวันศุกร์ (27 มิ.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ ขณะที่นักลงทุนกล้าเสี่ยงมากขึ้นจากความหวังในการยุติข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 543.63 จุด เพิ่มขึ้น 6.15 จุด หรือ +1.14%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,691.55 จุด เพิ่มขึ้น 134.24 จุด หรือ +1.78%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,033.22 จุด เพิ่มขึ้น 383.92 จุด หรือ +1.62% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,798.91 จุด เพิ่มขึ้น 63.31 จุด หรือ +0.72%
ดัชนี STOXX 600 ปิดบวกและยุติการร่วงลง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน และถือเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์ครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ เนื่องจากราคาน้ำมันร่วงลง หลังจากตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับการปิดช่องแคบฮอร์มุซซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญในการขนส่งน้ำมันโลก ภายหลังความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านที่ยืดเยื้อเป็นเวลา 12 วันสิ้นสุดลง
นักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้น่าแปลกใจที่ตลาดยังแข็งแกร่งต่อเนื่องท่ามกลางเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน แต่ก็ชัดเจนว่าตลาดมองว่าความขัดแย้งจะยังจำกัดอยู่ในกรอบ แม้อาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อก็ตาม
เมื่อความกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางลดลง นักลงทุนได้หันไปให้ความสนใจกับพัฒนาการด้านการค้าโลก โดยหวังว่าจะมีความคืบหน้าเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าใหม่ก่อนถึงเส้นตายสำหรับการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ในช่วงต้นเดือนก.ค.
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สหรัฐฯ และจีนได้บรรลุข้อตกลงในการเร่งกระบวนการจัดส่งแร่หายากมายังสหรัฐฯ
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรป และกลุ่มสินค้าหรู ซึ่งอ่อนไหวต่อข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับจีน ต่างพุ่งขึ้น 4.1% และ 2.5% ตามลำดับ
หุ้นปอร์เช่ (Porsche) พุ่งขึ้น 7.6% หลังจากหนังสือพิมพ์ Handelsblatt รายงานว่าบริษัทกำลังเตรียมขายธุรกิจที่ปรึกษาและบริการไอที MHP ซึ่งอาจมีมูลค่าสูงกว่า 1 พันล้านยูโร (1.17 พันล้านดอลลาร์)
แรงหนุนเพิ่มเติมมาจากกรณีที่ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เรียกร้องให้พรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสถอดถอนข้อเสนอภาษีตอบโต้ซึ่งจะเปิดทางให้โดนัลด์ ทรัมป์สามารถเรียกเก็บภาษีสูงถึง 20% ต่อนักลงทุนต่างชาติจากประเทศที่เก็บภาษีไม่เป็นธรรมกับบริษัทสหรัฐฯ
ในขณะเดียวกัน ผู้นำสหภาพยุโรปได้หารือเกี่ยวกับข้อเสนอใหม่จากสหรัฐฯ ว่าด้วยข้อตกลงทางการค้า ในการประชุมสุดยอดที่กรุงบรัสเซลส์เมื่อวันพฤหัสบดี เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ที่การเจรจาอาจล้มเหลว โดยกล่าวว่า ทุกทางเลือกยังเปิดกว้างอยู่
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า มีการเจรจาเกิดขึ้นมากมาย และต้องใช้เวลา แต่สัญญาณใด ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าความตึงเครียดจะไม่ปะทุขึ้นอีก จะถูกมองในแง่บวก
บรรยากาศของตลาดทั่วโลกยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากตลาดวอลล์สตรีท โดยทั้งดัชนี S&P500 และ Nasdaq เปิดการซื้อขายที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์