ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันจันทร์ (30 มิ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และทำสถิติรายไตรมาสที่ดีที่สุดในรอบกว่า 1 ปี โดยได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการทำข้อตกลงทางการค้า รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,094.77 จุด เพิ่มขึ้น 275.50 จุด หรือ +0.63%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,204.95 จุด เพิ่มขึ้น 31.88 จุด หรือ +0.52% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,369.73 จุด เพิ่มขึ้น 96.27 จุด หรือ +0.47%
ตลอดไตรมาส 2/2568 ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 4.98% ขณะที่ดัชนี S&P500 พุ่งขึ้น 10.57% และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 17.75%
ข่าวสหรัฐฯ ทำข้อตกลงการค้ากับจีนและสหราชอาณาจักรทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าสงครามการค้าโลกจะลดความรุนแรงลง โดยนักลงทุนต่างก็คาดหวังว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงเพิ่มเติมก่อนกำหนดเส้นตายทางการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 9 ก.ค.
ทั้งนี้ ข้อตกลงการค้าระหว่างสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วในวันจันทร์ที่ 30 มิ.ย. ซึ่งครอบคลุมถึงการปรับลดภาษีรถยนต์ที่นำเข้าจากสหราชอาณาจักรลงจากระดับ 25% สู่ระดับ 10% ขณะเดียวกันสหรัฐฯ และจีนได้บรรลุข้อตกลงในการเร่งรัดการส่งออกแร่หายากจากจีนมายังสหรัฐฯ ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 9 ก.ค.
ทางด้านแคนาดาได้ประกาศยกเลิกการเรียกเก็บภาษีบริการดิจิทัลจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (29 มิ.ย.) เพื่อหวังผลักดันให้การเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ เดินหน้าต่อไปได้ โดยก่อนหน้านี้ แคนาดามีกำหนดเริ่มเก็บภาษีดังกล่าวในจันทร์ที่ 30 มิ.ย. โดยจะเรียกเก็บในอัตรา 3% จากรายได้ของบริษัทข้ามชาติสัญชาติอเมริกัน ได้แก่ อะเมซอน (Amazon), กูเกิล (Google) และเมตา (Meta) ที่ได้รับจากผู้ใช้งานในแคนาดา
อย่างไรก็ดี สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เตือนว่าประเทศต่าง ๆ จะยังคงเผชิญกับการถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตราที่สูงขึ้นในวันที่ 9 ก.ค. แม้ประเทศเหล่านี้กำลังพยายามเจรจาต่อรอง ส่วนความเป็นไปได้ที่จะมีการขยายเวลาการผ่อนปรนมาตรการภาษีนั้น จะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของปธน.ทรัมป์
ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าปธน.ทรัมป์จะคัดเลือกผู้ที่มีแนวคิดผ่อนคลายนโยบายการเงินมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดแทนเจอโรม พาวเวลนั้น ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสมากขึ้นที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
นักลงทุนจับตาการลงมติร่างกฎหมายการปรับลดภาษีและการใช้จ่ายขนานใหญ่ของปธน.ทรัมป์ในวุฒิสภา โดยปธน.ทรัมป์ต้องการให้ร่างกฎหมายนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสก่อนวันหยุดในวันที่ 4 ก.ค.เนื่องในวันชาติสหรัฐฯ แม้นักวิเคราะห์เตือนว่า การปรับลดอัตราภาษีครั้งใหม่จะทำให้รัฐบาลมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นอีก 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์
หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้น 0.98% และ 0.86% ตามลำดับ ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มพลังงานปรับตัวลง 0.86% และ 0.66% ตามลำดับ
นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 120,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 139,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.3% ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 4.2% ในเดือนพ.ค.