ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ (1 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นเพื่อทำกำไร หลังจากตลาดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมาแล้ว 5 วันทำการติดต่อกัน ขณะเดียวกัน ตลาดก็ได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาประเด็นภาษีศุลกากรระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 39,986.33 จุด ลดลง 501.06 จุด หรือ -1.24%
หุ้นที่ปรับตัวลงในวันนี้นำโดยหุ้นกลุ่มบริการ กลุ่มเวชภัณฑ์ และกลุ่มเครื่องมือชั่งตวงวัด
นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาหลังจากดัชนีนิกเกอิปรับตัวขึ้นกว่า 2,000 จุดตลอด 5 วันทำการที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นในกลุ่มผู้ส่งออก เช่น กลุ่มยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ปรับตัวลงจากผลของเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งจะทำให้กำไรจากต่างประเทศของผู้ส่งออกลดน้อยลงเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินเยน
บรรดาโบรกเกอร์ระบุว่า บรรยากาศการลงทุนซบเซาลงหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แสดงความไม่พอใจเมื่อวันจันทร์ (30 มิ.ย.) ว่า ญี่ปุ่นนำเข้าข้าวจากอเมริกาไม่มากพอ ซึ่งยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับการเจรจาภาษีระหว่างสองประเทศที่ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร
มาซาฮิโระ ยามากูจิ หัวหน้าฝ่ายวิจัยการลงทุนของ SMBC Trust Bank กล่าวว่า "หลังจากที่ดัชนีนิกเกอิได้ทะลุหลัก 40,000 จุดไปแล้ว การที่นักลงทุนจะเข้าซื้อต่อไปโดยไม่มีปัจจัยบวกใหม่ ๆ ทางเศรษฐกิจมาสนับสนุนนั้น ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก"
"ขณะที่การเจรจาเรื่องภาษีของสหรัฐฯ กับประเทศอื่น ๆ ดูเหมือนจะดำเนินไปในทิศทางที่ดี แต่กับญี่ปุ่นแล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น เรื่องนี้จึงยิ่งโหมกระพือความกังวลต่ออนาคตของการเจรจาระหว่างสองประเทศให้มากขึ้นไปอีก" ยามากูจิกล่าวเสริม