ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (1 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนประเมินข่าวสารที่หลากหลายของภาคธุรกิจ รวมถึงรายงานที่ว่าประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) กำลังพิจารณาย้ายการจดทะเบียนหุ้นของบริษัทไปยังสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ระดับ 8,785.33 จุด เพิ่มขึ้น 24.37 จุด หรือ +0.28%
ราคาหุ้นแอสตร้าเซนเนก้าพุ่งขึ้น 2.7% หลังจากแหล่งข่าวหลายรายเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์เดอะไทมส์ว่า ปาสกาล โซริโอต ซีอีโอ กำลังพิจารณาย้ายการจดทะเบียนของบริษัทไปยังสหรัฐฯ
บรรดานักลงทุนยังจับตาความเห็นล่าสุดของ แอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ย โดยเบลีย์ระบุว่า ความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นในเศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและแผนการลงทุน พร้อมชี้ถึงตลาดแรงงานของอังกฤษที่เริ่มอ่อนแอลง
นักลงทุนในตลาดกำลังประเมินว่า มีโอกาส 78% ที่ BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนส.ค.
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะมีค่าเป็นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยปรับขึ้น 2.4% หลังจากราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยพุ่งขึ้นกว่า 1% ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงและมีความไม่แน่นอนเรื่องภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
หุ้นบริษัทเหมืองแร่ เอ็นเดฟเวอร์ ไมนิ่ง (Endeavour Mining) และหุ้นเฟรสนิลโล (Fresnillo) เพิ่มขึ้น 2.8% และ 1% ตามลำดับ ส่วนหุ้นฮอกซ์ชิลด์ ไมนิ่ง (Hochschild Mining) พุ่งขึ้น 5.3%
ในทางกลับกัน หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมอวกาศและกลาโหม ร่วงลง 2.2% นำโดยหุ้นโรลส์-รอยซ์ (Rolls-Royce) ที่ลดลง 2.9% และหุ้นแบ็บค็อก (Babcock) ร่วง 2.5%
ในด้านข้อมูลเศรษฐกิจ ดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก S&P แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของสหราชอาณาจักรปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน แม้ยังต่ำกว่าระดับที่บ่งชี้ถึงการขยายตัว โดยธุรกิจต่าง ๆ มีการปรับราคาขึ้นเพื่อชดเชยต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้น