ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุด นำโดยหุ้นของบริษัท Nvidia ซึ่งทำสถิติมูลค่าตลาดทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้
ณ เวลา 21.13 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 44,461.61 จุด บวก 220.85 จุด หรือ 0.50%
ทั้งนี้ Nvidia ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก และเป็น 1 ใน 30 บริษัทที่ได้รับการคำนวณในดัชนีดาวโจนส์ มีราคาหุ้นพุ่งขึ้นมากกว่า 2% ในวันนี้ ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัททะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้น Nvidia ขานรับกระแส Generative AI
Nvidia กลายเป็นบริษัทแรกในประวัติศาสตร์ที่มีมูลค่าตลาดสูงกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ขณะนี้ Nvidia เป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก แซงหน้าไมโครซอฟท์ คอร์ป และแอปเปิ้ล อิงค์ ซึ่งบริษัททั้ง 2 เคยมีมูลค่าตลาดแตะระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ก่อน Nvidia
ทั้งนี้ Nvidia ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 โดยบริษัททำสถิติมูลค่าตลาดแตะ 2 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ.2567 และ 3 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.2567 ก่อนที่จะทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้
นักลงทุนยังคงจับตามาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐต่อประเทศคู่ค้า
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความบน Truth Social เมื่อค่ำวานนี้ตามเวลาสหรัฐ (8 ก.ค.) โดยระบุว่า เขาจะประกาศมาตรการทางการค้ากับอีก 7 ประเทศเป็นอย่างน้อยในวันนี้ (9 ก.ค.)
"เราจะเปิดเผยรายชื่ออย่างน้อย 7 ประเทศที่เกี่ยวข้องกับการค้าในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ และจะมีการเปิดเผยรายชื่อประเทศเพิ่มเติมในช่วงบ่าย" ปธน.ทรัมป์ระบุใน Truth Social
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ส่งจดหมายเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตราใหม่ต่อ 14 ประเทศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.
สหรัฐเรียกเก็บภาษีในอัตรา 25% ต่อสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย คาซัคสถาน และตูนิเซีย ขณะที่สินค้าจากแอฟริกาใต้และบอสเนียจะถูกเก็บภาษีนำเข้า 30% ส่วนสินค้าจากอินโดนีเซียถูกเรียกเก็บภาษี 32%
นอกจากนี้ บังกลาเทศและเซอร์เบียถูกเก็บภาษี 35% ขณะที่กัมพูชาและไทยถูกเก็บภาษี 36% ส่วนลาวและเมียนมาถูกเก็บภาษี 40%
ล่าสุด ปธน.ทรัมป์กล่าววานนี้ว่า เขาจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองแดงในอัตรา 50% และมีแผนเก็บภาษีนำเข้ายาในอัตรา 200%