ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิปิดแทบไม่ขยับ กังวลการเมืองญี่ปุ่น-ประเด็นภาษีสหรัฐฯ

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดแทบไม่ขยับในวันนี้ (22 ก.ค.) ท่ามกลางความกังวลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ หลังพรรคฝ่ายรัฐบาลพ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งใหญ่ ประกอบกับความไม่แน่นอนในการเจรจาเรื่องภาษีกับสหรัฐฯ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 39,774.92 จุด ลดลง 44.19 จุด หรือ -0.11%

หุ้นที่ปรับตัวลงในวันนี้นำโดยกลุ่มเภสัชภัณฑ์ กลุ่มเครื่องมือชั่งตวงวัด รวมถึงกลุ่มคลังสินค้าและบริการขนส่งท่าเรือ ขณะที่หุ้นบวกได้แก่กลุ่มเหล็กและเหล็กกล้า กลุ่มโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็ก รวมถึงกลุ่มเครื่องจักร

นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นในช่วงแรก ขานรับปัจจัยบวกจากความโล่งใจของนักลงทุนที่ผลการเลือกตั้งวุฒิสภาเมื่อวันอาทิตย์ (20 ก.ค.) ออกมาใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับการที่นายกฯ อิชิบะยืนยันเมื่อวันจันทร์ (21 ก.ค.) ว่าจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป ซึ่งช่วยเลี่ยงความวุ่นวายทางการเมืองไปได้ในระยะนี้

อย่างไรก็ตาม ดัชนีกลับร่วงลงในเวลาต่อมา ท่ามกลางความระมัดระวังของนักลงทุน หลังจากผลการเลือกตั้งทำให้พรรคฝ่ายรัฐบาลต้องสูญเสียการครองเสียงข้างมากในทั้งสองสภา และความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อทิศทางการเจรจาภาษีระหว่างญี่ปุ่น-สหรัฐฯ

"ผลการเลือกตั้งที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อในช่วงแรก แต่แนวโน้มการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ ยังคงเป็นประเด็นที่น่ากังวล" เซอิจิ ซูซูกิ หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดหุ้นจากสถาบันวิจัยโตไก โตเกียวกล่าว

ขณะนี้ เรียวเซ อากาซาวะ หัวหน้าคณะผู้เจรจาของญี่ปุ่น อยู่ระหว่างการเยือนกรุงวอชิงตันเพื่อเจรจาระดับรัฐมนตรีรอบที่ 8 ในขณะที่เส้นตายที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะบังคับใช้มาตรการที่เรียกว่า "ภาษีตอบโต้" (reciprocal tariffs) นั้น กำลังจะมาถึงในวันที่ 1 ส.ค.นี้ หากการเจรจาไม่เป็นผล ญี่ปุ่นจะต้องเผชิญกับการเก็บภาษีสินค้านำเข้าที่อัตรา 25% ซึ่งจะยิ่งฉุดรั้งเศรษฐกิจของประเทศ