ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (22 ก.ค.) ทำสถิติสูงสุดเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนอีกครั้งจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ขนาดใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นตามราคาทองแดงที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,023.81 จุด เพิ่มขึ้น 10.82 จุด หรือ +0.12%
ข้อมูลเศรษฐกิจระบุว่า อังกฤษกู้ยืมเงินมากกว่าที่คาดในเดือนมิ.ย. เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ต้นทุนหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น ขณะที่ราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีคลังอังกฤษกล่าวว่า ประเทศยังคงต้องพึ่งพาต่างชาติในการอุดช่องว่างด้านการเงินสาธารณะ และเธอจะให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนการกู้ยืม
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเหมืองแร่ นำตลาดปรับตัวขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 2.3% ตามทิศทางราคาทองแดงที่ได้รับแรงหนุนจากความหวังต่อความต้องการที่แข็งแกร่งขึ้นของจีน
หุ้น Glencore พุ่งขึ้น 3.1%, หุ้น Rio Tinto พุ่ง 2.2% และหุ้น Antofagasta พุ่ง 1.8%
ส่วนหุ้นลบนำโดยดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมอากาศยานและกลาโหมซึ่งร่วงลง 1.9%
สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Compass Group พุ่งขึ้น 5.4% หลังบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการธุรกิจบริการอาหารพรีเมียมของยุโรป Vermaat Groep มูลค่าประมาณ 1.5 พันล้านยูโร (1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) รวมภาระหนี้ พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรประจำปี, หุ้น Centrica พุ่งขึ้น 4.8% หลังอังกฤษอนุมัติโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Sizewell C มูลค่า 3.8 หมื่นล้านปอนด์ (5.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ทางตะวันออกของอังกฤษ ซึ่งบริษัทถือหุ้น 15% ในโครงการนี้, หุ้น Legal & General ร่วง 2.1% หลัง RBC Capital Markets ปรับลดคำแนะนำหุ้นนี้จาก "sector perform" เป็น "underperform", หุ้น Greencore พุ่ง 12% หลังผู้ผลิตอาหารสะดวกซื้อรายนี้ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรประจำปี และหุ้น Pennon พุ่งขึ้น 2.5% หลัง J.P.Morgan ปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนจาก "neutral" เป็น "overweight" ขณะที่บริษัทเพื่อนร่วมอุตสาหกรรมอย่าง United Utilities และ Severn Trent พุ่งขึ้นกว่า 2.2%