ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดในวันพุธ (23 ก.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ขานรับข่าวที่ว่าสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) ใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้า รวมทั้งการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าสหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่นแล้ว
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,010.29 จุด เพิ่มขึ้น 507.85 จุด หรือ +1.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,358.91 จุด เพิ่มขึ้น 49.29 จุด หรือ +0.78% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,020.02 จุด เพิ่มขึ้น 127.33 จุด หรือ +0.61%
เจ้าหน้าที่ EU เปิดเผยว่า EU ใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนถึงเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค. โดยหากทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ ก็จะทำให้สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจาก EU ในอัตรา 15% ลดลงจากที่เคยขู่ว่าจะเรียกเก็บในอัตรา 30% ขณะที่สื่อรายงานว่าข้อตกลงดังกล่าวจะยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าบางประเภทสำหรับทั้งสองฝ่าย เช่น เครื่องบิน สุรา และอุปกรณ์ทางการแพทย์
ข่าวดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากปธน.ทรัมป์ประกาศบรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น โดยสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากญี่ปุ่นในอัตรา 15% ซึ่งต่ำกว่าที่เคยขู่ว่าจะเรียกเก็บในอัตรา 25% ในขณะที่ญี่ปุ่นจะลงทุนมูลค่า 5.50 แสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ และเปิดประเทศเพื่อทำการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงรถยนต์ รถบรรทุก ข้าว และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
ข่าวสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น และมีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงกับ EU ได้ก่อนเส้นตายวันที่ 1 ส.ค. ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้า โดยดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปรับตัวลง 6.8% แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 เดือน
หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และกลุ่มอุตสาหกรรม พุ่งขึ้น 2.03% และ 1.75% ตามลำดับ ส่วนหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ปรับตัวลง 0.79% และ 0.07% ตามลำดับ
หุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 2.25% และเป็นปัจจัยหนุนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ
ขณะที่หุ้นจีอี เวอร์นาโร (GE Vernova) ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า ทะยานขึ้น 14.6% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 2/2568 ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้และกระแสเงินสด
นับตั้งแต่ต้นปีนี้ หุ้นจีอี เวอร์นาโร พุ่งขึ้นไปแล้วกว่า 80% โดยได้แรงหนุนจากการใช้พลังงานไฟฟ้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการศูนย์ข้อมูล AI และคริปโทเคอร์เรนซีปรับตัวสูงขึ้น
หุ้นเทสลา (Tesla) ขยับขึ้น 0.14% ขณะที่หุ้นอัลฟาเบท (Alphabet) ปรับตัวลง 0.58% ก่อนที่ทั้งสองบริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการหลังตลาดปิดทำการ
หุ้นเทอร์โม ฟิชเชอร์ (Thermo Fisher) ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ พุ่งขึ้นกว่า 9% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
หุ้นเท็กซัส อินสตรูเมนท์ (Texas Instruments) ร่วงลง 13% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์กำไรรายไตรมาส ซึ่งบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของอุปสงค์ชิปอนาล็อกและตอกย้ำถึงความไม่แน่นอนอันเนื่องมาจากภาษีศุลกากร โดยแนวโน้มที่อ่อนแอดังกล่าวได้ฉุดหุ้นบริษัทผลิตชิปอนาล็อกรายอื่น ๆ ร่วงลงด้วย รวมถึงหุ้นเอ็นเอ็กซ์พี เซมิคอนดักเตอร์ (NXP Semiconductors), หุ้นอนาล็อก ดีไวซ์ (Analog Devices) และหุ้นออน เซมิคอนดักเตอร์ (ON Semiconductor)
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุด สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐฯ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองดิ่งลง 2.7% สู่ระดับ 3.93 ล้านยูนิตในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.00 ล้านยูนิต
นักลงทุนจับตาข้อมูลด้านอื่น ๆ ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่นโยบายการค้ายังคงไม่แน่นอน โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคการผลิตเดือนก.ค.จาก S&P Global และยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย. ส่วนในวันศุกร์จะมีการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย.