ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันศุกร์ (25 ก.ค.) แต่ยังคงปิดบวกต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 ขณะที่นักลงทุนประเมินผลประกอบการที่ออกมาผสมผสาน และข้อมูลเศรษฐกิจ รวมถึงติดตามความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,120.31 จุด ลดลง 18.06 จุด หรือ -0.20%
ข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนมิ.ย. โดยฟื้นตัวขึ้นบางส่วนจากที่ร่วงลง 2.8% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2566 แต่การเพิ่มขึ้นยังต่ำกว่าคาดการณ์เฉลี่ยของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 1.2% ขณะที่ผลสำรวจชี้ว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงในเดือนก.ค.ก่อนการขึ้นภาษีที่อาจเกิดขึ้นปลายปี และภาคครัวเรือนเพิ่มการออมเงิน
กลุ่มธุรกิจที่กดดันตลาดได้แก่ กลุ่มก่อสร้างและวัสดุ ร่วง 1.8% นำโดยหุ้น Marshalls ที่ร่วงลง 20.6% หลังปรับลดคาดการณ์กำไรก่อนหักภาษีตลอดปี
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะมีค่า ลดลง 1.3% และกลุ่มเหมืองแร่อุตสาหกรรม ลบ 1% เนื่องจากราคาทองคำและทองแดงที่ลดลง
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้น NatWest พุ่งขึ้น 3.5% หลังธนาคารรายงานกำไรครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 18% และประกาศซื้อหุ้นคืนมูลค่า 750 ล้านปอนด์ (1.01 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
หุ้น Wizz Air พุ่ง 11.5% หลัง Barclays ปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนเป็นเพิ่มน้ำหนักการลงทุน (overweight)
ด้านประเด็นการค้าโลกนั้น เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปและนักการทูตระบุว่า สหภาพยุโรปและสหรัฐฯ อาจบรรลุกรอบข้อตกลงการค้าได้ภายในสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษมีกำหนดพบปะเจรจากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (28 ก.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-สหราชอาณาจักร