ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวนในวันนี้ (30 ก.ค.) หลังจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนได้ปิดฉากลงโดยไม่มีการทำข้อตกลงขยายระยะเวลาการเรียกเก็บภาษีศุลกากรระหว่างกัน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 40,682.14 จุด เพิ่มขึ้น 7.59 จุด หรือ +0.02% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 25,415.94 จุด ลดลง 108.51 จุด หรือ -0.43% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,628.53 จุด เพิ่มขึ้น 18.82 จุด หรือ +0.52%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ดีดตัวขึ้น 1.1% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียบวก 0.77%
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนได้เสร็จสิ้นการเจรจาการค้าที่กรุงสตอกโฮล์มแล้วในวันอังคาร โดยแม้ว่าจีนและสหรัฐฯ ได้ตกลงที่จะขยายระยะเวลาการระงับขึ้นภาษีศุลกากรระหว่างกันออกไป แต่ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ประกาศความคืบหน้าในการเจรจา หรือกำหนดเวลาที่ชัดเจนของการขยายเวลาการระงับการขึ้นภาษีแต่อย่างใด
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ และจีนจะเดินหน้าเจรจาเกี่ยวกับประเด็นการขยายระยะเวลาการพักรบด้านการค้า ก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 12 ส.ค. โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการขยายเวลาดังกล่าว
สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline Inflation) ในไตรมาส 2/2568 ลดลงสู่ระดับ 2.1% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2564 และชะลอตัวลงจากไตรมาส 1 ที่ระดับ 2.4%
การชะลอตัวของเงินเฟ้ออาจเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยคณะกรรมการ RBA ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว 2 ครั้งในปีนี้ โดยปรับลดครั้งละ 0.25% หลังจากที่เคยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุดในรอบ 12 ปีที่ 4.35% เพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่สูงเกินคาด