ดัชนีดาวโจนส์พลิกร่วงลงกว่า 100 จุด หลังดีดตัวขึ้นในช่วงแรก ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของไมโครซอฟท์ อิงค์ และเมตา แพลตฟอร์มส์
ณ เวลา 22.27 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 44,330.90 จุด ลบ 130.38 จุด หรือ 0.29%
ราคาหุ้นไมโครซอฟท์และเมตาพุ่งขึ้น 6% และ 11% ตามลำดับในการซื้อขายวันนี้ หลังเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่สูงกว่าคาด
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของแอปเปิ้ล อิงค์ และแอมะซอนดอทคอม อิงค์ ซึ่งจะเปิดเผยหลังปิดตลาดวันนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุน หลังนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ แสดงความเชื่อมั่นว่า สหรัฐและจีนมีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงทางการค้า ขณะที่กำหนดเส้นตายในการเจรจากำลังใกล้เข้ามา
"ผมเชื่อว่าเรามีความสามารถในการทำข้อตกลง ยังคงมีรายละเอียดทางเทคนิคบางประการที่ทางฝ่ายจีนต้องหารือร่วมกับเรา ซึ่งผมมั่นใจว่าเราจะประสบความสำเร็จ แต่ตอนนี้มันยังไม่เสร็จสมบูรณ์ 100%" นายเบสเซนต์กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ Squawk Box ของสำนักข่าว CNBC
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนได้เสร็จสิ้นการเจรจาการค้าที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) หลังการเจรจาเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งเป็นการเจรจาการค้ารอบที่ 3 ของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลก
ก่อนหน้านี้ นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนายเจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ได้พบปะกับนายเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ที่สวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 12 พ.ค. ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีการปรับลดอัตราภาษีศุลกากรฝ่ายละ 115% เป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้สหรัฐลดอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีนสู่ระดับ 30% จากเดิมที่ระดับ 145% ขณะที่จีนลดอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐสู่ระดับ 10% จากเดิมที่ระดับ 125% โดยระยะเวลาผ่อนผัน 90 วันดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 12 ส.ค.
นายกรีเออร์กล่าวว่า คณะเจรจาของสหรัฐจะหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับการอนุมัติการขยายเวลาผ่อนผันการขึ้นภาษีศุลกากรกับจีน
นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง หลังการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่สูงกว่าคาด
นอกจากนี้ นักลงทุนเลื่อนคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้เป็นเดือนต.ค. จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 61.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนก.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 52.4% เมื่อวานนี้
นอกจากนี้ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนต.ค. ก่อนที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.5% จากระดับ 2.4% ในเดือนพ.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.3% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.2% ในเดือนพ.ค.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.7% จากระดับ 2.8% ในเดือนพ.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.3% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.2% ในเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)