ตลาดหุ้นยุโรปปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งสัปดาห์ในวันพฤหัสบดี (31 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับผลประกอบการของหลายบริษัท เช่น Sanofi และ Ferrari ขณะเดียวกันหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มร่วงลงจากแรงกดดันจากการที่สหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้า 15%
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 546.11 จุด ลดลง 4.13 จุด หรือ -0.75%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,771.97 จุด ลดลง 89.99 จุด หรือ -1.14%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,065.47 จุด ลดลง 196.75 จุด หรือ -0.81% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,132.81 จุด ลดลง 4.13 จุด หรือ -0.05%
นักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการในยุโรป โดยนักลงทุนประเมินว่าภาษีสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการบริษัทต่าง ๆ ตลอดช่วงที่เหลือของปีมากเพียงใด
หุ้น Ferrari ผู้ผลิตรถหรูจากอิตาลี ร่วงลง 11.7% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่การเข้าจดทะเบียนเมื่อ 9 ปีก่อน ส่งผลกระทบต่อดัชนีหุ้นกลุ่มยานยนต์ของยุโรปที่ลดลงเกือบ 4%
แม้ Ferrari จะยังคงคาดการณ์ผลประกอบการทั้งปีตามเดิม และระบุว่าจะทยอยยกเลิกมาตรการลดราคาชดเชยบางรุ่นที่ขายในสหรัฐฯ เมื่อข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับอียูมีผลบังคับใช้ แต่นักวิเคราะห์ตั้งข้อสงสัยว่าบริษัทยังสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรสูงไว้ได้หรือไม่
หุ้น Sanofi ผู้ผลิตยารายใหญ่ของฝรั่งเศสร่วง 7.8% หลังรายงานผลประกอบการต่ำกว่าที่คาด
หุ้นกลุ่มธนาคารในยูโรโซนยังคงแข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้นอีก 0.7% และตลอดเดือน ก.ค. กลุ่มนี้ทำผลงานดีกว่าตลาดรวม โดยเพิ่มขึ้นถึง 49% เมื่อเทียบกับดัชนี STOXX ที่เพิ่มขึ้น 7.6%
หุ้น Societe Generale ปรับเพิ่มเป้าหมายกำไรทั้งปี ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 6.9% ขณะที่ BBVA พุ่ง 7.9% หลังรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2 สูงกว่าคาด
ความหวังของผู้ผลิตเครื่องดื่มถูกกระทบหลังนักการทูตยุโรประบุว่าสินค้าส่งออกไวน์และสุราจากสหภาพยุโรปจะยังคงเผชิญภาษีจากสหรัฐฯ ต่อไป จนกว่าจะมีข้อตกลงใหม่ในการเจรจาที่คาดว่าจะดำเนินต่อในฤดูใบไม้ร่วง
ดัชนีหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มปิดร่วงลง 2.6% โดยได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากหุ้น Anheuser-Busch InBev ที่ร่วงลง 11.6% หลังรายงานปริมาณขายลดลง
อีกหนึ่งปัจจัยกดดันตลาดหุ้นคืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีอายุ 2 ปี ปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. หลังตลาดลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป โดยขณะนี้คาดการณ์โอกาส 50% ที่จะมีการลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ภายในสิ้นปี