ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (4 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่อ่อนแอเกินคาด ซึ่งฉุดดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงในวันศุกร์ (1 ส.ค.) แม้ว่าข้อมูลแรงงานดังกล่าวทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.ก็ตาม
ดัชนีนิกเกอิเปิดที่ระดับ 40,118.81 จุด ลดลง 680.79 จุด หรือ -1.66%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ระดับ 24,431.88 จุด ลดลง 75.93 จุด หรือ 0.31% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดที่ระดับ 3,547.16 จุด ลดลง 12.79 จุด หรือ -0.36%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียลดลง 0.21% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 0.13%
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 73,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 106,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.2% จากระดับ 4.1% ในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิ.ย.เป็นเพิ่มขึ้นเพียง 14,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้นมากถึง 147,000 ตำแหน่ง และปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค.เป็นเพิ่มขึ้นเพียง 19,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้นมากถึง 125,000 ตำแหน่ง
ข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และเป็นปัจจัยฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงในวันศุกร์ แต่ในขณะเดียวกันข้อมูลดังกล่าวก็ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. โดยเครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า ความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.25% ในเดือนก.ย.นั้น ได้เพิ่มขึ้นจาก 37.7% มาอยู่ที่ 86.5%