ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเล็กน้อยในวันศุกร์ (8 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนประเมินผลการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งจุดกระแสความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อขึ้นมาอีกครั้ง และจับตาการเสนอชื่อชั่วคราวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สำหรับตำแหน่งว่างในคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,095.73 จุด ลดลง 5.04 จุด หรือ -0.06% แต่บวก 0.3% ในรอบสัปดาห์นี้
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนประเมินผลประกอบการที่แข็งแกร่งของหลายบริษัท ซึ่งช่วยให้ตลาดหุ้นอังกฤษฟื้นตัวจากการร่วงแรงที่สุดในรอบเกือบ 4 เดือนเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (1 ส.ค.)
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการลงทุนยังเปราะบางหลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษลงมติแบบเสียงแตก โดยมี 4 จาก 9 คนโหวตให้คงดอกเบี้ยไว้ท่ามกลางความกังวลด้านเงินเฟ้อที่ยังไม่คลี่คลาย ซึ่งสะท้อนสัญญาณว่า วัฏจักรการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางอาจใกล้สิ้นสุดลง
เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ส่งผลกดดันต่อบริษัทที่พึ่งพาการส่งออก
ขณะเดียวกัน ความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น หลังจากทรัมป์ประกาศว่าจะเสนอชื่อ สตีเฟน มิแรน ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ เข้ารับตำแหน่งในคณะกรรมการธนาคารกลางเป็นการชั่วคราวไม่กี่เดือน
ทำเนียบขาวยังคงเดินหน้าหาผู้สืบตำแหน่งประธานเฟดต่อจากเจอโรม พาวเวล ซึ่งวาระจะสิ้นสุดในวันที่ 15 พ.ค. 2569
นักลงทุนพิจารณาว่าการที่ทรัมป์เสนอชื่อมิแรนเข้ารับตำแหน่ง แม้เพียงชั่วคราว อาจเป็นความพยายามของทรัมป์ในการเพิ่มอิทธิพลต่อทิศทางนโยบายการเงิน ซึ่งสอดคล้องกับจุดยืนของเขาที่เรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ยมานาน
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 2% ตามราคาทองแดงที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยหุ้น Glencore และ Antofagasta เป็นกลุ่มที่ปรับขึ้นมากที่สุดในดัชนี FTSE 100 โดยเพิ่มขึ้น 2.8% และ 2.5% ตามลำดับ
หุ้นกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนพุ่งขึ้น 5.3% โดย Dowlais ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จากอังกฤษ พุ่งขึ้น 5.7%
หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคล รวมถึงกลุ่มท่องเที่ยวและนันทนาการ ลดลง 2.5% และ 1.7% ตามลำดับ