ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ดีดตัวทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ณ เวลา 20.48 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 44,771.22 จุด บวก 312.61 จุด หรือ 0.70% ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq บวก 0.4% และ 0.5% ตามลำดับ
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้พุ่งขึ้นเกือบ 500 จุด ขานรับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เกิดจากการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเพิ่มความหวังมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในเดือนนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทั้งนี้ การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีนี้จะมีขึ้นในวันที่ 21-23 ส.ค. ในหัวข้อ "Labor Markets in Transition: Demographics, Productivity, and Macroeconomic Policy" หรือ "ตลาดแรงงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน: โครงสร้างประชากร, ประสิทธิภาพการผลิต และนโยบายเศรษฐกิจมหภาค" โดยมีธนาคารกลางสหรัฐสาขาแคนซัส ซิตี้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม
สำหรับในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์ที่ 22 ส.ค. เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย
หัวข้อการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีนี้ ซึ่งเกี่ยวกับตลาดแรงงาน นับว่าตรงกับสถานการณ์ที่กำลังสร้างความวิตกในสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 73,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 106,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.2% จากระดับ 4.1% ในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิ.ย.เป็นเพิ่มขึ้นเพียง 14,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้นมากถึง 147,000 ตำแหน่ง และปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค.เป็นเพิ่มขึ้นเพียง 19,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้นมากถึง 125,000 ตำแหน่ง