ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ (19 ส.ค.) ท่ามกลางสภาวะการซื้อขายอันไร้ทิศทางที่แน่ชัด โดยนักลงทุนได้เทขายเพื่อทำกำไร ภายหลังจากที่ดัชนีได้ทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (18 ส.ค.)
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 43,546.29 จุด ลดลง 168.02 จุด หรือ -0.38%
หุ้นลบนำตลาดได้แก่ กลุ่มธนาคาร กลุ่มโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็ก และกลุ่มธุรกิจประกันภัย
ในช่วงเปิดตลาด ดัชนีนิกเกอิปรับตัวขึ้น โดยได้อานิสงส์จากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นตามทิศทางหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดในระยะแรกได้รับปัจจัยหนุนจากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มยานยนต์เพื่อการส่งออก อันเนื่องมาจากค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลง
นอกจากนี้ โบรกเกอร์ระบุว่า บรรยากาศการลงทุนยังได้รับอานิสงส์จากความคาดหวังว่าความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์มีแนวโน้มจะคลี่คลายลง ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้แสดงความหวังเมื่อวันจันทร์ว่า ตนและประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน จะได้มีการเจรจาหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียในเร็ววันนี้ เพื่อหาทางยุติสงครามในยูเครน
อย่างไรก็ตาม ตลาดโดยรวมตลอดทั้งวันยังคงเคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่แน่ชัด และถูกกดดันจากแรงเทขายทำกำไร เนื่องด้วยนักลงทุนยังคงเฝ้าระวังต่อภาวะที่ตลาดอาจร้อนแรงเกินเหตุ ภายหลังจากที่ดัชนีนิกเกอิได้ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน นักลงทุนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ณ การประชุมสัมมนาที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์นี้
มาซาฮิโระ ยามากูจิ หัวหน้าฝ่ายวิจัยการลงทุนของ SMBC Trust Bank กล่าวว่า "ตลาดยังคงมีความคาดหวังว่า พาวเวลอาจจะส่งสัญญาณถึงการเคลื่อนไหวเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป ด้วยเหตุนี้จึงยังไม่ได้มีแรงกดดันให้เกิดการเทขายหนัก"