ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 300 จุด โดยได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของราคาหุ้นวอลมาร์ท อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ที่สุดในโลก
ณ เวลา 20.49 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 44,645.25 จุด ลบ 293.06 จุด หรือ 0.65%
ราคาหุ้นของวอลมาร์ทร่วงลงกว่า 4% ขณะที่นักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัท
ทั้งนี้ วอลมาร์ทเปิดเผยตัวเลขรายได้ในเดือนพ.ค.-ก.ค. ซึ่งเป็นไตรมาส 2 ของปีงบการเงินบริษัท สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่กำไรต่ำกว่าคาด
วอลมาร์ทระบุว่า บริษัทมีกำไร 68 เซนต์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 74 เซนต์/หุ้น
อย่างไรก็ดี บริษัทมีรายได้ 1.7740 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.7616 แสนล้านดอลลาร์
ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากจะเป็นการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งสุดท้ายของนายพาวเวล ก่อนที่เขาจะสิ้นสุดวาระการดำรงดำแหน่งประธานเฟดในเดือนพ.ค.2569
ทั้งนี้ นายพาวเวลจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์ที่ 22 ส.ค. เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนก.ย.และธ.ค. จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 3 ครั้งที่เหลือในปีนี้ หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงกว่าคาด
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 79.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือนธ.ค.