ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันพุธ (27 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มการเงินขนาดใหญ่ ขณะที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,255.50 จุด ลดลง 10.30 จุด หรือ -0.11%
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลงต่อเนื่องจากวันอังคาร หลังจากที่สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกเผชิญแรงกดดันเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ระบุว่า เขาสั่งปลด ลิซา คุก ผู้ว่าการเฟด ขณะที่ทนายของคุกตอบโต้ว่า เธอจะยื่นฟ้องเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกปลดออกจากตำแหน่ง
ในบรรดาหุ้นที่อ่อนตัวลงนั้น หุ้นธนาคารเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ร่วงหนักที่สุด โดยหุ้น NatWest ร่วงลง 2.5%
ก่อนหน้านี้ ดัชนี FTSE 100 เคยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากตลาดโลกได้แรงหนุนจากการส่งสัญญาณของ เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดที่ระบุว่า อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นลอนดอนเผชิญแรงกดดัน โดยปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง หลังตลาดปิดทำการวันหยุดธนาคารเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
หุ้น Hochschild Mining ดิ่งลง 9.3% หลังบริษัทปรับลดเป้าหมายการผลิตทองคำประจำปีของเหมือง Mara Rosa ลงกว่าครึ่ง
ในทางตรงข้าม หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคส่วนบุคคล พุ่งขึ้น 3.1% ขณะที่หุ้น JD Sports Fashion ทะยานขึ้น 3.6% หลังจากผู้ค้าปลีกเครื่องกีฬารายนี้เริ่มมีสัญญาณทรงตัวในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดหลัก หลังจากร่วงแรงในไตรมาสก่อน
บริษัทประกัน Prudential เปิดแผนซื้อหุ้นคืนมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และส่งสัญญาณเพิ่มเงินปันผลในอีกสองปีข้างหน้า หลังมีกำไรธุรกิจใหม่ครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 12% แต่ราคาหุ้นกลับปิดลดลง 1.7%
สำหรับความสนใจของนักลงทุนทั่วโลกนั้นมุ่งไปที่การเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Nvidia ของสหรัฐฯ