ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ นักลงทุนประเมินผลประกอบการ

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (28 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ ขณะที่นักลงทุนประเมินผลประกอบการของบริษัท Pernod Ricard ของฝรั่งเศส และบริษัท Nvidia ผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 553.67 จุด ลดลง 1.09 จุด หรือ -0.20%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,762.60 จุด เพิ่มขึ้น 18.67 จุด หรือ +0.24%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,039.92 จุด ลดลง 6.29 จุด หรือ -0.03% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,216.82 จุด ลดลง 38.68 จุด หรือ -0.42%

หุ้นในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ของยุโรปปรับตัวผสมผสาน หลังนักลงทุนวิเคราะห์แนวโน้มรายได้ศูนย์ข้อมูลของ Nvidia ที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ไว้ โดยหุ้น ASML ปรับตัวลงเล็กน้อย ขณะที่หุ้น BESI ทรงตัว ส่วนหุ้น Infineon และหุ้น ASM International ปรับตัวขึ้น 1.2% และ 3.7% ตามลำดับ

Nvidia ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดตลาด AI ได้ตัดการคาดการณ์ยอดขายที่อาจเกิดขึ้นในจีนออกไป เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านนโยบาย

หุ้น Pernod Ricard ปรับตัวขึ้น 1.4% หลังกลุ่มผู้ผลิตสุรารายงานผลประกอบการประจำปีซึ่งยอดขายและกำไรลดลงน้อยกว่าที่คาด พร้อมทั้งคาดการณ์แนวโน้มที่ดีขึ้นตั้งแต่ครึ่งหลังของปีงบการเงิน 2569

หุ้น Remy Cointreau เพิ่มขึ้น 1% ส่วนหุ้น LVMH พุ่งขึ้น 2.2% โดยหุ้นเหล่านี้ช่วยหนุนให้ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศสปรับตัวขึ้น 0.2% โดยฟื้นตัวขึ้นบางส่วนหลังจากร่วงลงเมื่อต้นสัปดาห์จากความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฟรองซัวส์ บายรู จะล่มสลายในเดือนหน้า

หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ปรับตัวลง 0.8% โดยหุ้น Sanofi ลดลง 1.4%

ส่วนหุ้น Orsted พุ่งขึ้น 5.6% หลัง Berenberg ปรับคำแนะนำลงทุนจากถือเป็นซื้อ โดยคาดว่าการเพิ่มทุนจะช่วยปรับโครงสร้างทางการเงินให้แข็งแกร่งขึ้น และหุ้น Delivery Hero ร่วงลง 5.9% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์กำไรก่อนหักรายการพิเศษประจำปีลงเมื่อคืนวันพุธ

ยอดขายรถใหม่ในยุโรปเพิ่มขึ้น 5.9% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่ดีที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปี และถือเป็นแรงหนุนให้กับอุตสาหกรรมที่ซบเซา โดยหุ้นกลุ่มรถยนต์ยุโรปปรับตัวขึ้น 0.6% ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองเพิ่มขึ้น 0.7% ตามราคาทองแดงที่สูงขึ้น

ความปั่นป่วนทางการเมืองในฝรั่งเศส และความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์พยายามปลดผู้ว่าการเฟด มีผลกดดันตลาดหุ้นยุโรปตลอดทั้งสัปดาห์นี้

คณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอให้ทำการยกเลิกภาษีศุลกากรสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้าระหว่างสองฝ่าย และจะนำไปสู่การปรับลดภาษีย้อนหลังของสหรัฐฯ ที่มีต่อรถยนต์ยุโรป