ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเล็กน้อยในวันจันทร์ (1 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นเหมืองแร่โลหะมีค่าและหุ้นกลุ่มกลาโหม แต่การปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคยังคงกดดันตลาด
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 9,196.34 จุด เพิ่มขึ้น 9.00 จุด หรือ +0.10%
ตลาดฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงแรงสุดในรอบเกือบ 5 เดือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยหุ้นกลุ่มกลาโหมปรับตัวขึ้น หลังนอร์เวย์ประกาศเลือกอังกฤษเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ในการจัดหาเรือฟริเกตใหม่ มูลค่าราว 1 หมื่นล้านปอนด์ (1.351 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยหุ้น BAE Systems บวก 1.9% Babcock เพิ่มขึ้น 2.1% และ Rolls-Royce พุ่งขึ้น 2.8%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะมีค่าพุ่งขึ้น 3.3% ตามราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยหุ้น Hochschild Mining พุ่งแรง 6.7% ขณะที่ Fresnillo และ Endeavour Mining บวก 2.1% และ 3.5% ตามลำดับ
ดัชนี FTSE 100 เคยทำสถิติสูงสุดในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา จากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. แต่ในช่วงปลายเดือนตลาดหุ้นลอนดอนกลับเผชิญแรงขายต่อเนื่อง 4 วันติด โดยหุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ฟื้นตัวขึ้นหลังร่วงลงเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากมีการเสนอให้เก็บภาษีใหม่จากภาคธนาคารเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาล
หุ้น NatWest ขยับขึ้น 1.2% และ Barclays เพิ่มขึ้น 1.9%
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวลง โดยหุ้น SSE ร่วง 3.1% ขณะที่ National Grid และ United Utilities ลดลง 2.1% และ 2.5% ตามลำดับ ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลและกลุ่มเหมืองแร่อุตสาหกรรมก็อ่อนตัวลงเช่นกัน
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจนั้น ผลสำรวจบ่งชี้ว่า ผู้ผลิตในอังกฤษเผชิญแรงกดดันครั้งใหม่ในเดือนส.ค. 2568 โดยคำสั่งซื้อใหม่ลดลงจากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศและการขึ้นภาษีภายในประเทศ
สำหรับการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเบาบาง ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการในวันจันทร์ (1 ก.ย.) เนื่องในวันแรงงาน