ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันจันทร์ (15 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากหุ้น AstraZeneca และการแข็งค่าของเงินปอนด์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางต่าง ๆ ในสัปดาห์นี้ รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,277.03 จุด ลดลง 6.26 จุด หรือ -0.07%
หุ้น AstraZeneca ร่วง 3.2% หลัง Handelsbanken ปรับลดคำแนะนำการลงทุน และมีรายงานว่าบริษัทได้ยุติการลงทุนที่วางแผนไว้ 200 ล้านปอนด์ (271.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในศูนย์วิจัยที่เมืองเคมบริดจ์
บรรดานักลงทุนคาดว่า BoE จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ ท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อ และอาจชะลอการทยอยลดการถือครองพันธบัตรปีละ 100,000 ล้านปอนด์ เนื่องจากความผันผวนในตลาดพันธบัตรกลับมาอีกครั้ง โดยผลสำรวจระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยหนึ่งครั้งในไตรมาสหน้า และอีกครั้งต้นปีหน้า
เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดบวก 0.4% ที่ 1.36 ดอลลาร์สหรัฐ
ความสนใจในตลาดยังคงมุ่งไปที่เฟดซึ่งจะกำหนดนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้ เช่นเดียวกับธนาคารกลางญี่ปุ่นและแคนาดา
นอกจากนี้ สหรัฐฯ และอังกฤษจะประกาศความตกลงด้านเทคโนโลยีและพลังงานนิวเคลียร์พลเรือนระหว่างการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งที่สองของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในสัปดาห์นี้ โดยอังกฤษมีเป้าหมายจะปิดดีลการค้าสำคัญเพื่อกำหนดอัตราภาษีนำเข้าเหล็ก
ในบรรดาหุ้นรายตัวนั้น หุ้น AO World พุ่งขึ้น 14% หลังผู้ค้าปลีกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของอังกฤษเปิดเผยแผนซื้อหุ้นคืนเป็นครั้งแรก และปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรขั้นต้นก่อนหักภาษีประจำปี
ส่วนหุ้น Sainsbury พุ่งขึ้น 3.5% แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี หลังยืนยันยุติการเจรจากับ JD.com ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของจีนเกี่ยวกับการขายกิจการ Argos