ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพุธ (17 ก.ย.) โดยฟื้นตัวจากการร่วงลงเมื่อวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนรอการตัดสินใจกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,208.37 จุด เพิ่มขึ้น 12.71 จุด หรือ +0.14%
บรรดานักลงทุนคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจหลายตัวสะท้อนว่าตลาดแรงงานอ่อนแอลง และนักลงทุนยังจับตาถ้อยแถลงของ เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันพุธระบุว่า เงินเฟ้อของอังกฤษทรงตัวที่ 3.8% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในบรรดาประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วรายใหญ่ ซึ่งตอกย้ำการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงปีหน้า โดยราคาสินค้าประเภทอาหารที่สูงขึ้นซึ่ง BoE มองว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดความคาดหวังด้านเงินเฟ้อของประชาชน ถือเป็นการปรับขึ้นแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. ปีที่แล้ว
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ข้อมูลเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรสนับสนุนมุมมองที่ว่า BoE จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกตลอดช่วงที่เหลือของปี 2568
หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยพุ่งขึ้น 3.9% หลังหุ้น Burberry พุ่ง 4.2%
หุ้นกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนเพิ่มขึ้น 2.7% ขณะที่หุ้น Aston Martin ผู้ผลิตรถหรูทะยานขึ้น 7.8%
หุ้น Centrica พุ่ง 3.6% หลัง Morgan Stanley เลือกเป็นหุ้นเด่นสำหรับการลงทุน ขณะที่หุ้น Unilever ปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลง หลัง เจอร์รี กรีนฟีลด์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Ben & Jerrys ตัดสินใจลาออกจากบริษัท อันเนื่องมาจากความขัดแย้งกับ Unilever ซึ่งเป็นบริษัทแม่