ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ (18 ก.ย.) ปรับตัวผสมผสานกัน หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาดเมื่อวานนี้ โดย เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดระบุว่า การปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการปรับลดเพื่อจัดการความเสี่ยง มากกว่าจะเป็นการปรับลดเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่อ่อนแอโดยตรง
ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 45,277.43 จุด เพิ่มขึ้น 487.05 จุด หรือ +1.09%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 26,860.61 จุด ลดลง 47.78 จุด หรือ -0.18% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,893.95 จุด เพิ่มขึ้น 17.61 จุด หรือ +0.45%
ส่วนดัชนี ASX/S&P 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.51% และดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้บวก 0.96%
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติ 11 ต่อ 1 เสียง อนุมัติการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยสตีเฟน มิแรน ซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟด โหวตสวนมติในที่ประชุม FOMC โดยเขาลงมติให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้
สำหรับการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ภายในสิ้นปีนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 1 ครั้งในปี 2569 และลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% จำนวน 1 ครั้งในปี 2570
พาวเวลกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า การจ้างงานมีความเสี่ยงมากกว่าที่จะเผชิญภาวะขาลงเมื่อเทียบกับตัวเลขเงินเฟ้อ แต่ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อยังคงต้องมีการประเมินและควบคุม
ส่วนธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะเริ่มการประชุมนโยบายการเงินวันแรกในวันนี้ และจะแถลงมติการประชุมในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า BOJ จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้