-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดร่วงลงในวันนี้ (18 ก.ย.) จากแรงขายทำกำไร ซึ่งทำให้ดัชนีพลิกลงรุนแรงจากที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปีเมื่อช่วงเช้า โดยภาวะการซื้อขายถูกกดดันจากรายงานข่าวที่ว่าหน่วยงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์ของจีนได้สั่งให้บริษัทต่าง ๆ รวมถึงอาลีบาบา (Alibaba) ระงับการซื้อชิป RTX Pro 6000D ของอินวิเดีย (Nvidia)
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ระดับ 3,831.66 จุด ลดลง 44.68 จุด หรือ -1.15%
-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงในวันนี้ (18 ก.ย.) จากแรงขายทำกำไร หลังจากที่ดัชนีปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสี่ปีเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ขณะเดียวกันยังได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นจีนที่ปิดร่วงลงเช่นกัน หลังธนาคารกลางจีน (PBOC) ส่งสัญญาณไม่รีบร้อนผ่อนคลายนโยบายการเงิน
ดัชนีฮั่งเส็งปิดตลาดที่ระดับ 26,544.85 จุด ร่วงลง 363.54 จุด หรือ -1.35%
-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ (18 ก.ย.) ทะลุระดับ 45,000 จุดได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ขานรับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 45,303.43 จุด เพิ่มขึ้น 513.05 จุด หรือ +1.15%
-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดบวกเกือบ 1.5% ในวันนี้ (18 ก.ย.) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นหนุนตลาด หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามคาด และส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอีก 2 ครั้งในปีนี้
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดที่ระดับ 3,461.30 จุด เพิ่มขึ้น 47.90 จุด หรือ +1.4%
-- ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดลบในวันนี้ (18 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากการเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนไม่ได้ให้ความสำคัญกับการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในปีนี้ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 8,745.20 จุด ลดลง 73.30 จุด หรือ -0.83% และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 9,030.90 จุด ลดลง 64.00 จุด หรือ -0.70%