ดัชนีดาวโจนส์พลิกพุ่งขึ้นกว่า 200 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ดีดตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขานรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 21.29 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 46,282.37 จุด บวก 264.05 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ดีดตัวขึ้น 0.78% และ 1.16% ตามลำดับ
ราคาหุ้นของ อินเทล คอร์ป บริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 20% หลังมีข่าวว่าบริษัท Nvidia จะทุ่มเงินลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์ในอินเทล
ทั้งนี้ Nvidia เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะลงทุนมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ในอินเทล ภายใต้ข้อตกลงในการร่วมกันพัฒนาชิปสำหรับศูนย์ข้อมูลและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดย Nvidia จะเข้าซื้อหุ้นอินเทลในราคา 23.28 ดอลลาร์/หุ้น
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติ 11-1 ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมวานนี้ตามการคาดการณ์ของตลาด
นายสตีเฟน มิแรน ซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟด โหวตสวนมติในที่ประชุม FOMC โดยเขาลงมติให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวานนี้
ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ก่อนสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในปี 2569 และลดอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในปี 2570
ทั้งนี้ Dot Plot บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งหมดอีก 4 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 1% ในช่วงปี 2568-2570
นอกจากนี้ เฟดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 1.6% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 1.4% ขณะที่คงตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อและอัตราว่างงานในปีนี้