ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุด ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ต่อเนื่องจากวานนี้ ขานรับคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน โดยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ หลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกของเฟดในปีนี้
ณ เวลา 20.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 46,600.53 จุด บวก 218.99 จุด หรือ 0.47%
นายสตีเฟน มิแรน ผู้ว่าการเฟดคนใหม่ เรียกร้องวานนี้ให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ โดยระบุว่าเฟดตีความผิดพลาดเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงิน ซึ่งอาจทำให้ตลาดแรงงานตกอยู่ในความเสี่ยง
"ท่าทีแบบผ่อนคลายของนายมิแรนยิ่งเพิ่มความคาดหวังว่าเฟดจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับท่าทีของรัฐบาลสหรัฐ" นายรอสส์ นอร์แมน นักวิเคราะห์อิสระ กล่าว
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีมติ 11-1 ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ตามการคาดการณ์ของตลาด และเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกของเฟดในปีนี้
ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ก่อนสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในปี 2569 และลดอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในปี 2570
ทั้งนี้ Dot Plot บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งหมดอีก 4 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 1% ในช่วงปี 2568-2570
นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่ Greater Providence Chamber of Commerce (GPCC) ในวันนี้ เวลา 12.35 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 23.35 น.ตามเวลาไทย
ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด