ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (25 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังมากขึ้นต่อความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ขณะที่ความอ่อนแอของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์และกลุ่มหุ้นเฮลท์แคร์กดดันตลาด
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,213.98 จุด ลดลง 36.45 จุด หรือ -0.39%
เมแกน กรีน ผู้กำหนดนโยบายของ BoE กล่าวเมื่อวันพุธว่า ความเสี่ยงเงินเฟ้อในอังกฤษมีแนวโน้มจะรุนแรงกว่าที่ธนาคารกลางคาดการณ์ไว้ จึงควรใช้ความระมัดระวังในการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม
อังกฤษยังมีอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในกลุ่มประเทศ G7 อยู่ที่ 3.8% ในเดือนส.ค. และ BoE คาดว่าจะขึ้นถึง 4% ในเดือนก.ย. ก่อนที่จะชะลอลงและกลับสู่เป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2570
ตลาดยังถูกกดดันจากการที่ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจและความเห็นจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) บั่นทอนความเชื่อมั่นต่อการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษดีดตัวขึ้นหลังมีการเปิดเผยข้อมูลว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตเร็วกว่าที่คาด ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมทั้งสองฝั่งแอตแลนติกดีดตัวสูงขึ้น
หุ้นกลุ่มอุปกรณ์และบริการทางการแพทย์ของอังกฤษร่วงลง 2.3% หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดการสอบสวนด้านความมั่นคงแห่งชาติรอบใหม่เกี่ยวกับการนำเข้าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล สินค้าทางการแพทย์ หุ่นยนต์ และเครื่องจักรอุตสาหกรรม โดยหุ้น Convatec Group ร่วงลงแรงที่สุดถึง 5.6% ขณะที่หุ้น Smith+Nephew ลดลง 1.2% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ลดลง 1.8%
ส่วนหุ้นกลุ่มบริษัทผลิตโลหะอุตสาหกรรมยังคงปรับตัวขึ้น 1.5% ตามราคาทองแดงที่ปรับตัวแข็งแกร่ง โดยหุ้น Rio Tinto พุ่งขึ้น 3.5%