ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ส่งสัญญาณการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมา
ณ เวลา 19.28 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 162 จุด หรือ 0.35% สู่ระดับ 46,718 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นเกือบ 300 จุดเมื่อวันศุกร์ ขานรับดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน โดยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ หลังจากที่เฟดได้ดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในปีนี้เมื่อวันที่ 17 ก.ย.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนต.ค.และธ.ค. ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดอยู่ที่ระดับ 3.50-3.75% ในช่วงสิ้นปี 2568
นักลงทุนจับตาการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ หรือชัตดาวน์ ที่มีเส้นตายในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.) ซึ่งหากสหรัฐเผชิญภาวะชัตดาวน์ จะทำให้กระทรวงแรงงานไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรตามกำหนดในวันศุกร์ที่ 3 ต.ค.
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ มีกำหนดหารือกับแกนนำทั้งสี่ของสภาคองเกรสที่ทำเนียบขาวในวันนี้ เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงวิกฤติชัตดาวน์
การประชุมดังกล่าวมีกำหนดจัดขึ้นในวันนี้ (29 ก.ย.) เวลา 14.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.) เวลา 01.00 น.ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ แกนนำสภาคองเกรสที่จะเข้าหารือกับปธน.ทรัมป์ ได้แก่ นายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร, นายฮาคีม เจฟฟรีส์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎร, นายจอห์น ธูน ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา และนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา
นักวิเคราะห์ระบุว่า การปิดหน่วยงานรัฐบาลในครั้งนี้จะไม่เหมือนกับวิกฤติด้านงบประมาณที่ผ่านมา โดยปธน.ทรัมป์และสำนักงานบริหารและงบประมาณของทำเนียบขาว (OMB) เรียกร้องให้หน่วยงานต่าง ๆ ลดจำนวนบุคลากรในโครงการที่ไม่ได้รับงบประมาณและไม่สอดคล้องกับนโยบายของปธน.ทรัมป์
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ตัดสินใจจัดการประชุมกับแกนนำสภาคองเกรสในวันนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เขาได้โพสต์ข้อความบน Truth Social ขู่ยกเลิกการประชุมดังกล่าว เนื่องจากมองว่าการประชุมจะไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด
"หลังจากที่ได้ทบทวนรายละเอียดของข้อเรียกร้องที่ไม่จริงจังและไร้สาระจากพรรคเดโมแครตฝ่ายซ้ายหัวรุนแรงเสียงข้างน้อยในสภา ที่ต้องการแลกกับคะแนนเสียงเพื่อให้ประเทศอันรุ่งเรืองของเรายังคงเปิดดำเนินการต่อไป ผมจึงตัดสินใจว่าไม่มีทางที่การประชุมกับบรรดาผู้นำในสภาคองเกรสของพวกเขาจะก่อให้เกิดประโยชน์ได้เลย""พวกเขากำลังขู่ที่จะปิดรัฐบาลสหรัฐ เว้นแต่จะได้งบใช้จ่ายใหม่กว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อดำเนินโครงการต่าง ๆ ต่อไป เช่น การให้บริการสาธารณสุขฟรีแก่ผู้อพยพผิดกฎหมาย (ค่าใช้จ่ายมหาศาล!), บังคับให้ผู้เสียภาษีต้องออกเงินสนับสนุนการผ่าตัดแปลงเพศสำหรับผู้เยาว์, ให้มีรายชื่อผู้เสียชีวิตอยู่ในบัญชีรายชื่อ Medicaid, อนุญาตให้ผู้อพยพผิดกฎหมายที่เป็นอาชญากรขโมยสิทธิประโยชน์ของผู้เสียภาษีชาวอเมริกันจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์, พยายามบังคับให้ประเทศเรากลับมาเปิดพรมแดนให้อาชญากรและคนจากทั่วโลกเข้ามา, อนุญาตให้ผู้ชายลงแข่งในกีฬาสำหรับผู้หญิง และให้มีการผ่าตัดแปลงเพศสำหรับทุกคน""ทัศนคติและนโยบายฝ่ายซ้ายหัวรุนแรงเหล่านี้ ทำให้ผมชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี รวมทั้งใน 7 รัฐสมรภูมิ และยังชนะคะแนน Popular Vote จากประชาชน ด้วยชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์อย่างถล่มทลาย""ผมตั้งตารอที่จะได้พบกับพวกเขา หากพวกเขามีความจริงจังเกี่ยวกับอนาคตของประเทศเรา เราต้องทำให้รัฐบาลเปิดดำเนินการต่อไป และออกกฎหมายเหมือนกับผู้รักชาติที่แท้จริง ไม่ใช่จับพลเมืองอเมริกันเป็นตัวประกัน ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าพวกเขาต้องการให้ประเทศที่รุ่งเรืองของเราถูกปิดตัวลง""ผมยินดีที่จะพบพวกเขา หากพวกเขายอมรับหลักการที่ระบุไว้ในจดหมายฉบับนี้ พวกเขาต้องทำหน้าที่ของตนเอง!""ถึงผู้นำพรรคเดโมแครต ตอนนี้ลูกบอลอยู่ในสนามของคุณแล้ว ผมตั้งตารอที่จะได้พบกับคุณ เมื่อคุณมีมุมมองสอดคล้องกับความเป็นจริงมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ประเทศของเรายืนหยัดอยู่ จงทำในสิ่งที่ถูกต้อง!" ปธน.ทรัมป์ระบุ