ดาวโจนส์เปิดแดนลบ ชัตดาวน์กดดันตลาด

ข่าวต่างประเทศ Tuesday September 30, 2025 20:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดในแดนลบ โดยถูกกดดันจากแนวโน้มที่สหรัฐจะเผชิญกับการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์

ณ เวลา 20.32 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 46,291.52 จุด ลบ 24.55 จุด หรือ 0.05%

ทั้งนี้ สหรัฐใกล้ที่จะเผชิญกับภาวะชัตดาวน์ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมง ขณะที่พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตยังคงมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงในการจัดสรรงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลสามารถดำเนินการต่อไปได้

สหรัฐจะเริ่มเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์อย่างเป็นทางการตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันพุธที่ 1 ต.ค. ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเวลา 11.01 น.ตามเวลาไทย ซึ่งจะเป็นการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปี หากสภาคองเกรสไม่สามารถผ่านกฎหมายงบประมาณชั่วคราวระยะเวลา 7 สัปดาห์

พรรคเดโมแครตในวุฒิสภาระบุว่า พวกเขาจะไม่ลงคะแนนเสียงเห็นชอบต่อร่างกฎหมายดังกล่าว หากรีพับลิกันปฏิเสธที่จะรวมมาตรการขยายสิทธิประโยชน์ด้านการดูแลสุขภาพ และข้อเรียกร้องอื่น ๆ ของพรรคเดโมแครตในร่างกฎหมายฉบับนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และพรรครีพับลิกันปฏิเสธที่จะทำการเจรจา โดยให้เหตุผลว่า ร่างกฎหมายนี้ควรเป็นร่างกฎหมายที่ "สะอาด" และไม่ควรรวมถึงมาตรการอื่น ๆ ที่ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้หารือกับแกนนำทั้งสี่ของสภาคองเกรสที่ทำเนียบขาววานนี้ เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์ แต่ก่อนเข้าประชุม ปธน.ทรัมป์แสดงจุดยืนชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการที่จะเจรจาตามข้อเรียกร้องของพรรคเดโมแครต โดยกล่าวว่า "ความคิดของพวกเขาไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก"

ด้านนายเจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดี กล่าวหลังการประชุมว่า "ผมคิดว่าเรากำลังเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ เพราะเดโมแครตไม่ยอมทำในสิ่งที่ถูกต้อง"

ส่วนนายชัค ชูเมอร์ แกนนำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา กล่าวหลังเข้าพบปธน.ทรัมป์ที่ทำเนียบขาวว่า "ตอนนี้มันอยู่ในมือของประธานาธิบดีแล้ว เขาสามารถหลีกเลี่ยงการชัตดาวน์ได้ หากเขาทำให้ผู้นำรีพับลิกันยอมรับในสิ่งที่เราต้องการ"

ทั้งนี้ ในการโพสต์ข้อความบน Truth Social ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ได้แสดงท่าทีคัดค้านข้อเรียกร้องของพรรคเดโมแครตเพื่อแลกกับการผ่านงบประมาณรายจ่าย

"หลังจากที่ได้ทบทวนรายละเอียดของข้อเรียกร้องที่ไม่จริงจังและไร้สาระจากพรรคเดโมแครตฝ่ายซ้ายหัวรุนแรงเสียงข้างน้อยในสภา ที่ต้องการแลกกับคะแนนเสียงเพื่อให้ประเทศอันรุ่งเรืองของเรายังคงเปิดดำเนินการต่อไป ผมจึงตัดสินใจว่าไม่มีทางที่การประชุมกับบรรดาผู้นำในสภาคองเกรสของพวกเขาจะก่อให้เกิดประโยชน์ได้เลย""พวกเขากำลังขู่ที่จะปิดรัฐบาลสหรัฐ เว้นแต่จะได้งบใช้จ่ายใหม่กว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อดำเนินโครงการต่าง ๆ ต่อไป เช่น การให้บริการสาธารณสุขฟรีแก่ผู้อพยพผิดกฎหมาย (ค่าใช้จ่ายมหาศาล!), บังคับให้ผู้เสียภาษีต้องออกเงินสนับสนุนการผ่าตัดแปลงเพศสำหรับผู้เยาว์, ให้มีรายชื่อผู้เสียชีวิตอยู่ในบัญชีรายชื่อ Medicaid, อนุญาตให้ผู้อพยพผิดกฎหมายที่เป็นอาชญากรขโมยสิทธิประโยชน์ของผู้เสียภาษีชาวอเมริกันจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์, พยายามบังคับให้ประเทศเรากลับมาเปิดพรมแดนให้อาชญากรและคนจากทั่วโลกเข้ามา, อนุญาตให้ผู้ชายลงแข่งในกีฬาสำหรับผู้หญิง และให้มีการผ่าตัดแปลงเพศสำหรับทุกคน""ทัศนคติและนโยบายฝ่ายซ้ายหัวรุนแรงเหล่านี้ ทำให้ผมชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี รวมทั้งใน 7 รัฐสมรภูมิ และยังชนะคะแนน Popular Vote จากประชาชน ด้วยชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์อย่างถล่มทลาย""ผมตั้งตารอที่จะได้พบกับพวกเขา หากพวกเขามีความจริงจังเกี่ยวกับอนาคตของประเทศเรา เราต้องทำให้รัฐบาลเปิดดำเนินการต่อไป และออกกฎหมายเหมือนกับผู้รักชาติที่แท้จริง ไม่ใช่จับพลเมืองอเมริกันเป็นตัวประกัน ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าพวกเขาต้องการให้ประเทศที่รุ่งเรืองของเราถูกปิดตัวลง""ผมยินดีที่จะพบพวกเขา หากพวกเขายอมรับหลักการที่ระบุไว้ในจดหมายฉบับนี้ พวกเขาต้องทำหน้าที่ของตนเอง!""ถึงผู้นำพรรคเดโมแครต ตอนนี้ลูกบอลอยู่ในสนามของคุณแล้ว ผมตั้งตารอที่จะได้พบกับคุณ เมื่อคุณมีมุมมองสอดคล้องกับความเป็นจริงมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ประเทศของเรายืนหยัดอยู่ จงทำในสิ่งที่ถูกต้อง!" ปธน.ทรัมป์ระบุ

กระทรวงแรงงานสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางกระทรวงฯ จะไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ หากรัฐบาลสหรัฐเผชิญภาวะชัตดาวน์

ในแผนการรับมือภาวะชัตดาวน์ความยาว 73 หน้าของทางกระทรวงฯ ระบุว่า กระทรวงฯ กำลังดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจะสามารถระงับโครงการและการดำเนินงานได้อย่างเป็นระเบียบ หากเกิดภาวะชัตดาวน์ ขณะที่ทางกระทรวงฯ จะยังคงดำเนินกิจกรรมที่ได้รับอนุญาตในช่วงเวลาดังกล่าว

นอกจากนี้ แผนการระบุว่า สำนักสถิติแรงงาน (BLS) จะระงับการดำเนินงานทั้งหมด โดยจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดเผยแพร่ในช่วงเวลาที่อยู่ในภาวะชัตดาวน์

ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะได้รับผลกระทบ ได้แก่:-

🔴ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 2 ต.ค.

🔴ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 3 ต.ค.

🔴ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 15 ต.ค. ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่สำคัญ และเป็นข้อมูลชุดสุดท้ายที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะได้รับก่อนการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 28-29 ต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ