ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกงฮั่งเส็งปิดร่วง 400.84 จุด วิตกสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ รอบใหม่

ข่าวต่างประเทศ Monday October 13, 2025 15:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงในวันนี้ (13 ต.ค.) นับเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่หก โดยหุ้นร่วงลงทุกกลุ่มอุตสาหกรรม หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันศุกร์ว่าจะเก็บภาษี 100% สำหรับสินค้าจีนทั้งหมด พร้อมทั้งเพิ่มการควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เพื่อตอบโต้มาตรการควบคุมแร่หายากของรัฐบาลปักกิ่ง

ดัชนีฮั่งเส็งปิดตลาดที่ระดับ 25,889.48 จุด ร่วงลง 400.84 จุด หรือ -1.52% หลังเปิดตลาดร่วงลงไปถึง 2.5%

แม้ปธน.ทรัมป์ได้ออกมาส่งสัญญาณในเวลาต่อมาว่ายังคงเปิดกว้างสำหรับการเจรจาข้อตกลงทางการค้ากับจีน แต่นักลงทุนเพิกเฉยต่อท่าทีที่อ่อนลงดังกล่าว โดยตลาดหุ้นฮ่องกงทำสถิติต่ำสุดในรอบหนึ่งเดือนในการซื้อขายระหว่างวัน ก่อนที่จะลดช่วงลบลงได้บางส่วน หลังทางการจีนเปิดเผยข้อมูลการค้าที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนก.ย.

หุ้น Xiaomi ร่วงลง 6.1% หลังมีข่าวไฟไหม้รถยนต์รุ่น SU7 ของบริษัท และหุ้น China Vanke ลดลง 3.3% หลังจากการลาออกของประธานบริษัท

หุ้นตัวอื่น ๆ ที่ปรับตัวลง ได้แก่ HKEX -3.2%, Meituan -2.4% และ Tencent -2.4% ขณะที่หุ้น Zijin Mining พุ่งขึ้นถึง 7.8% เนื่องจากราคาทองคำทำสถิติสูงสุด ประกอบกับข่าวการเข้าซื้อเหมืองในคาซัคสถาน

เมื่อวันศุกร์ ปธน.ทรัมป์ได้ออกมาขู่ว่าจะใช้มาตรการภาษีใหม่เพื่อตอบโต้มาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากของจีน ซึ่งรัฐบาลจีนก็ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้การขู่ขึ้นภาษีของทรัมป์เมื่อวันอาทิตย์ โดยระบุว่าพร้อมที่จะใช้มาตรการตอบโต้ที่เด็ดขาด "เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของตน" ก่อนที่ทรัมป์จะแสดงท่าทีที่อ่อนลงในเวลาต่อมา พร้อมส่งสัญญาณเปิดกว้างสำหรับการเจรจา โดยเชื่อว่าความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีน "จะเรียบร้อยดี" ก่อนการพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งอาจเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ที่เกาหลีใต้

ขณะที่ในวันนี้ สำนักงานศุลกากรของจีน (GAC) เปิดเผยว่า การส่งออกและนำเข้าสินค้าของจีนในรูปสกุลเงินหยวน มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 33.61 ล้านล้านหยวน (4.73 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัว 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นจากช่วง 8 เดือนแรกของปีซึ่งมีการขยายตัวอยู่ที่ 3.5% โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการส่งออกที่แข็งแกร่ง

ในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย. การส่งออกสินค้าพุ่งขึ้น 7.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะระดับ 19.95 ล้านล้านหยวน ในขณะที่การนำเข้าอยู่ที่ 13.66 ล้านล้านหยวน ลดลงเล็กน้อย 0.2%

ขณะที่ในเดือนก.ย. เพียงเดือนเดียว มูลค่ารวมของการส่งออกและนำเข้าเพิ่มขึ้นถึง 8% เมื่อเทียบรายปี อยู่ที่ 4.04 ล้านล้านหยวน ซึ่งนับเป็นอัตราขยายตัวสูงสุดในปีนี้

ส่วนข้อมูลในรูปสกุลเงินดอลลาร์สำหรับเดือนก.ย. ปรากฏว่า การค้ากับต่างประเทศของจีนขยายตัวดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้มาก โดยการส่งออกในรูปสกุลเงินดอลลาร์ ขยายตัว 8.3% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 7.1% และเป็นการฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่ยอดส่งออกชะลอตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อเดือนส.ค.

ส่วนการนำเข้าในเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 7.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดไว้เพียง 1.5% และถือเป็นการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2567

หวัง จวิน รองผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรจีน กล่าวในการแถลงข่าวว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2568 การค้าต่างประเทศของจีนได้รักษาแนวโน้มการพัฒนาที่มั่นคงและเป็นบวก ท่ามกลางสภาพแวดล้อมภายนอกที่ซับซ้อน นอกจากนี้ การขยายตัวของการค้าสินค้ายังเร่งตัวขึ้นในแต่ละไตรมาส โดยในไตรมาสที่สามของปีนี้เติบโต 6% ซึ่งสูงกว่าอัตรา 1.3% ในไตรมาสแรก และ 4.5% ในไตรมาสที่สอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ