ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (14 ต.ค.) ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของธนาคารรายใหญ่ อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนซึมซับการแสดงความเห็นครั้งล่าสุดของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,270.46 จุด เพิ่มขึ้น 202.88 จุด หรือ +0.44%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,644.31 จุด ลดลง 10.41 จุด หรือ -0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,521.70 จุด ลดลง 172.91 จุด หรือ -0.76%
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคพุ่งขึ้น 1.72% ตามด้วยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมพุ่งขึ้น 1.17% ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงมากที่สุด โดยดิ่งลง 1.6% ตามด้วยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวลง 0.26%
ธนาคาร JPMorgan Chase เปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 3/2568 และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้จากดอกเบี้ยในปีงบการเงิน 2568 ขณะที่ธนาคาร Wells Fargo, Citigroup และ Goldman Sachs ต่างก็เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท
ทั้งนี้ หุ้น Wells Fargo พุ่งขึ้น 7.15% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2567 ขณะที่หุ้น Citigroup พุ่งขึ้น 3.8% แต่หุ้น JPMorgan ปรับตัวลง 1.9% และหุ้น Goldman Sachs ร่วงลง 2%
หุ้น Caterpillar ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างรายใหญ่ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 4.5% ปิดที่ระดับ 527.47 ดอลลาร์ และเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวก หลังจากนักวิเคราะห์ของ JPMorgan ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้น Caterpillar สู่ระดับ 650 ดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 505 ดอลลาร์
หุ้น Walmart ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 5% หลังจากบริษัทประกาศเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ OpenAI เพื่อให้ลูกค้าและสมาชิก Sam's Club ของ Walmart สามารถซื้อสินค้าได้โดยตรงกับแชตบอต ChatGPT
หุ้น BlackRock พุ่งขึ้นกว่า 3% หลังมีรายงานว่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารของบริษัทมีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 13.46 ล้านล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ โดยจีนได้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากเรือสหรัฐฯ ที่เข้ามาเทียบท่าในท่าเรือของจีน เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในลักษณะเดียวกันกับเรือของจีน และล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐฯ อาจพิจารณายุติการซื้อขายน้ำมันปรุงอาหารกับจีน เพื่อตอบโต้จีนที่ปฏิเสธการซื้อถั่วเหลืองของสหรัฐฯ
ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้เริ่มทวีความรุนแรงตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ขู่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 100% เพื่อตอบโต้จีนที่ออกมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายาก
เจอโรม พาวเล ประธานเฟดได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติสหรัฐ (NABE) ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย โดยระบุว่าเฟดอาจใกล้ถึงจุดที่จะยุติการลดขนาดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แต่เขาไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ เกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในระยะยาว
นอกจากนี้ พาวเวลได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับตลาดแรงงานว่า แม้อัตราว่างงานจะยังคงต่ำจนถึงเดือนส.ค. แต่การจ้างงานใหม่ได้ลดลงอย่างมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวของตลาดแรงงาน อันเนื่องจากการอพยพและการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงานที่ลดต่ำลง