ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันพุธ (15 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายก่อนการประกาศข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหราชอาณาจักรในวันพฤหัสบดีนี้ โดยความกังวลด้านการคลัง อีกทั้งภาวะเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง และแนวโน้มการปรับขึ้นภาษี กดดันบรรยากาศการลงทุนด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,424.75 จุด ลดลง 28.02 จุด หรือ -0.30%
ตลาดมุ่งความสนใจไปที่ตัวเลขคาดการณ์ GDP เดือนส.ค. ของสหราชอาณาจักร ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงินตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4% ในเดือนก.ย.
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า GDP ของสหราชอาณาจักรอาจขยายตัว 0.10% ในเดือนส.ค. แม้การขยายตัวจะไม่มาก แต่ถือเป็นการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม ซึ่งเป็นพัฒนาการที่น่ายินดี
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง เช่นเดียวกับอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษต้องการความมั่นใจว่าเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ควบคุมได้ก่อนที่จะพิจารณาลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม
เมื่อวันอังคาร กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า ธนาคารกลางอังกฤษจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต เนื่องจากคาดว่าอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรจะสูงที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว 7 ชาติ (G7) ทั้งในปี 2568 และ 2569
ในอีกด้านหนึ่ง ราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีคลังของสหราชอาณาจักรกล่าวว่ากำลังพิจารณาทั้งการขึ้นภาษีและการปรับลดงบประมาณรายจ่ายสำหรับงบประมาณที่จะนำเสนอในวันที่ 26 พ.ย.
บริษัท LVMH ของฝรั่งเศสซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดของกลุ่มสินค้าหรูหรา รายงานยอดขายไตรมาส 3 ที่ดีกว่าคาด ส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มเดียวกัน โดยหุ้น Burberry ของอังกฤษพุ่งขึ้น 3.3% และอยู่ในกลุ่มที่ปรับตัวดีที่สุดในดัชนี FTSE 100 ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลโดยรวมพุ่งขึ้น 3.6%
หุ้น PageGroup พุ่งขึ้น 3.4% หลังบริษัทจัดหางานรายนี้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ที่มีกำไรสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
ในทางกลับกัน หุ้นกลุ่มอากาศยานและการป้องกันประเทศร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ห้า โดยหุ้นของ BAE Systems ร่วง 2.12%
หุ้น Entain ร่วงลง 2.4% หลังบริษัทพนันของอังกฤษรายงานรายได้จากการพนันที่ชะลอตัวลงในไตรมาส 3 ขณะที่หุ้น Beazley ร่วง 2.5% และดัชนีหุ้นกลุ่มบริษัทประกันวินาศภัยลดลง 1.7%