ดัชนีดาวโจนส์พลิกร่วงลงเกือบ 200 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ณ เวลา 00.08 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลบ 197.65 จุด หรือ 0.43% สู่ระดับ 46,055.66 จุด
นางเหอ หย่งเฉียน โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าวว่า มาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากของจีน เป็นมาตรการที่ชอบด้วยกฎหมายและสอดคล้องกับกฎระเบียบของจีน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบการควบคุมการส่งออกให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการรั่วไหลและการใช้งานแร่หายากอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการนำไปใช้ในการผลิตอาวุธทำลายล้างสูง และเพื่อปกป้องความมั่นคงแห่งชาติของจีน รวมทั้งความมั่นคงของโลก
นางเหอกล่าวว่า ขอบเขตของมาตรการควบคุมดังกล่าวได้ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์แร่หายากบางชนิดในต่างประเทศที่ได้ถูกระบุไว้แล้วในบัญชีควบคุมการส่งออกของจีน เช่น วัสดุแม่เหล็กและชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง และจีนได้แจ้งประเทศต่าง ๆ ล่วงหน้า รวมทั้งสหรัฐ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ก่อนการประกาศมาตรการดังกล่าว และจีนยังคงรักษาการสื่อสารอย่างเป็นมิตรกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าภายใต้กรอบใหม่
'การตีความของสหรัฐได้บิดเบือนและขยายความจนเกินจริงต่อมาตรการของจีนอย่างรุนแรง โดยจงใจสร้างความเข้าใจผิดและความตื่นตระหนกโดยไม่จำเป็น' นางเหอกล่าว
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในช่วงแรก ขานรับกำไรและรายได้ที่สูงกว่าคาดของภาคธนาคาร รวมทั้งคาดการณ์ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี
ตลาดยังได้แรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังนายสตีเฟน มิแรน สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า ภาวะชะงักงันในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้ทำให้เกิดความเสี่ยงครั้งใหม่ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้เฟดมีความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการชัตดาวน์ หรือการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งได้ย่างเข้าสู่วันที่ 16 ท่ามกลางความหวังริบหรี่ที่จะเห็นวุฒิสภาสหรัฐอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว เนื่องจากยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน