ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 334.33 จุด ผิดหวังผลประกอบการ-วิตกสงครามการค้า

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 23, 2025 06:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (22 ต.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลดลงเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึง Netflix ขณะเดียวกันนักลงทุนวิตกกังวลต่อรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาควบคุมการส่งออกสินค้าที่ผลิตด้วยซอฟต์แวร์ของสหรัฐฯ ไปยังประเทศจีน

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,590.41 จุด ลดลง 334.33 จุด หรือ -0.71%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,699.40 จุด ลดลง 35.95 จุด หรือ -0.53% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,740.40 จุด ลดลง 213.27 จุด หรือ -0.93%

หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง 1.31% และหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยลดลง 1% ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น 1.32% และหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวขึ้น 0.64%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาใช้มาตรการควบคุมการส่งออกสินค้าที่ผลิตด้วยซอฟต์แวร์ของสหรัฐฯ ไปยังประเทศจีน ซึ่งสินค้าเหล่านี้ครอบคลุมถึงแล็ปท็อปไปจนถึงเครื่องยนต์เครื่องบิน เพื่อตอบโต้จีนที่จำกัดการส่งออกแร่หายาก โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการยกระดับความตึงเครียดทางการค้าครั้งใหม่ระหว่างสองประเทศ

ทางด้านปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาคาดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าที่น่าพึงพอใจกับจีน แต่ก็เตือนว่า แผนการพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งเดิมจะมีขึ้นนอกรอบการประชุมเอเปคที่เกาหลีใต้นั้น อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียน โดย Netflix ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสตรีมมิงภาพยนตร์และซีรีส์รายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยกำไรที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3/2568 โดยมีสาเหตุมาจากข้อพิพาทระหว่างทางบริษัทกับหน่วยงานจัดเก็บภาษีของบราซิล ส่งผลให้หุ้น Netflix ปิดตลาดร่วงลงกว่า 10%

หุ้น Texas Instruments ร่วงลง 5.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 ขณะที่ดัชนีหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดหุ้นฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia SE Semiconductor Index) ร่วงลง 2.4%

อย่างไรก็ดี ข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า บรรดาบริษัทในดัชนี S&P500 ที่ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ไปแล้วนั้น มี 87% ที่รายงานผลประกอบการสูงกว่าคาด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ผลกำไรโดยรวมของบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนี S&P500 จะมีการเติบโตที่ 9.3% ในไตรมาส 3/2568 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ระดับ 8.8%

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI จะเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนส.ค. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.1% เช่นกันในเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ