ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการ และการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ณ เวลา 20.34 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 46,608.68 จุด บวก 18.27 จุด หรือ 0.04%
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาด ขานรับราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้นในตลาดโลก หลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันของรัสเซีย
ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นกว่า 5% ทะลุระดับ 61 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศคว่ำบาตร Lukoil และ Rosneft บริษัทผลิตน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย โดยเป็นการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งแรกนับตั้งแต่ปธน.ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง ซึ่งมีเป้าหมายกดดันให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน
ราคาหุ้นของบริษัทเทสลา อิงค์ และ IBM ร่วงลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนผิดหวังต่อการเปิดเผยผลประกอบการ
ทั้งนี้ รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังพิจารณามาตรการควบคุมการส่งออกสินค้าที่ผลิตด้วยซอฟต์แวร์ของสหรัฐไปยังจีน โดยสินค้าเหล่านี้ครอบคลุมถึงแล็ปท็อปไปจนถึงเครื่องยนต์ไอพ่น เพื่อตอบโต้ต่อการที่จีนออกมาตรการจำกัดการส่งออกแร่หายาก
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 98.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 29 ต.ค. และให้น้ำหนัก 95.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมวันที่ 10 ธ.ค.
ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือนก.ย. จากระดับ 2.9% ในเดือนส.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.4% เช่นกันในเดือนส.ค.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 3.1% เช่นกันในเดือนส.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.3% เช่นกันในเดือนส.ค.