ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดเพิ่มขึ้นในวันนี้ (27 ต.ค.) และปิดในแดนบวก 3 วันทำการติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนจากความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ และยังขานรับข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่แข็งแกร่งอีกด้วย
ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ระดับ 26,433.70 จุด เพิ่มขึ้น 273.55 จุด หรือ +1.05%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นนำตลาด โดยหุ้น SMIC พุ่งขึ้น 4.4%, China Hongqiao ทะยาน 3.6%, Citic ทะยาน 3.4% และ Wuxi Biologics เพิ่มขึ้น 3.2%
ตลาดได้รับแรงหนุนหลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของจีนและสหรัฐฯ สามารถบรรลุฉันทามติเกี่ยวกับกรอบการทำงานในประเด็นที่เคยเป็นข้อพิพาท ซึ่งจะปูทางให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามข้อตกลงในการพบกันนอกรอบการประชุมเอเปคที่เกาหลีใต้ในวันพฤหัสบดีนี้ (30 ต.ค.)
ขณะเดียวกัน นักลงทุนมีความหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าคาด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยในวันศุกร์ (24 ต.ค.) ว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 3.0% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.1% จากระดับ 2.9% ในเดือนส.ค.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.0% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.1% จากระดับ 3.1% ในเดือนส.ค.
หลังจากเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 98.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75%-4.00% ในการประชุมวันที่ 29 ต.ค. และให้น้ำหนัก 98.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.50%-3.75% ในการประชุมวันที่ 10 ธ.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข้อมูลเศรษฐกิจจีน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานในวันนี้ว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนพุ่งขึ้น 21.6% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2566
สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.) กำไรภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 3.2% ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในช่วง 8 เดือนแรก (ม.ค.-ส.ค.) ที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.9%