ตลาดหุ้นยุโรปเปิดบวกในวันนี้ (27 ต.ค.) โดยนักลงทุนรอดูผลการประชุมนโยบายของธนาคารกลางหลายแห่ง รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เช่นเดียวกับแนวโน้มเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ตลอดจนการรายงานผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดที่ระดับ 576.90 จุด เพิ่มขึ้น 1.14 จุด หรือ +0.20%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดที่ระดับ 8,237.20 จุด เพิ่มขึ้น 11.57 จุด หรือ +0.14% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดที่ระดับ 24,332.85 จุด เพิ่มขึ้น 92.96 จุด หรือ +0.38%
การซื้อขายได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าคาด โดยนักลงทุนให้น้ำหนัก 98.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75%-4.00% ในการประชุมวันที่ 29 ต.ค. และให้น้ำหนัก 98.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.50%-3.75% ในการประชุมวันที่ 10 ธ.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางเยือนหลายประเทศในเอเชีย โดยสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยหลังประชุมร่วมกับคณะผู้แทนจีนที่ประเทศมาเลเซียเมื่อวันอาทิตย์ (26 ต.ค.) ว่า ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุฉันทามติเบื้องต้นในหัวข้อต่าง ๆ รวมถึงการควบคุมการส่งออก สารเฟนทานิล และภาษีการขนส่ง
เบสเซนต์ยังระบุว่า การเจรจากับเจ้าหน้าที่จีนเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และครอบคลุมทุกมิติ และเสริมว่า การขยายระยะเวลาพักรบทางการค้าน่าจะเดินหน้าต่อไปได้ แต่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับปธน.ทรัมป์
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการพบกันระหว่างปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง นอกรอบการประชุมเอเปคที่เกาหลีใต้ในวันที่ 30 ต.ค. รวมถึงรายงานผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง Alphabet, Amazon, Apple, Meta Platforms และ Microsoft