ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 74.37 จุด หลังพาวเวลดับฝันหั่นดบ.เดือนธ.ค.

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 30, 2025 06:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพูธ (29 ต.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมล่าสุดตามคาด แต่เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในเดือนธ.ค.นั้น ยังไม่แน่นอน

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,632.00 จุด ลดลง 74.37 จุด หรือ -0.16%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,890.59 จุด ลดลง 0.30 จุด หรือ -0.004% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,958.47 จุด เพิ่มขึ้น 130.98 จุด หรือ +0.55%

ในช่วงแรกนั้น ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ตามคาด นอกจากนี้ เฟดประกาศว่าจะยุติการลดขนาดงบดุล หรือยุติการใช้นโยบาย "คุมเข้มเชิงปริมาณ" (Quantitative Tightening - QT) ในวันที่ 1 ธ.ค. ซึ่งการยุตินโยบาย QT นั้น ถือเป็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟด

แต่ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P500 อ่อนแรงลง หลังจากพาวเวลได้กล่าวอย่างชัดเจนในระหว่างการแถลงข่าวว่า เฟดยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในการประชุมเดือนธ.ค.

"ในการประชุม FOMC ครั้งนี้ กรรมการเฟดมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการในเดือนธ.ค. ดังนั้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในการประชุมเดือนธ.ค. จึงยังไม่แน่นอน หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ห่างไกลจากความแน่นอน"

ทั้งนี้ หลังการแถลงข่าวของพาวเวล นักลงทุนให้น้ำหนัก 71% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งลดลงจากที่เคยให้น้ำหนักสูงถึง 90% ก่อนหน้านี้

หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ร่วงลง 2.66% ตามด้วยหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคร่วงลง 2% ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น 1.05% และหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารปรับตัวขึ้น 1.04%

ดัชนี Nasdaq ยังคงปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากหุ้น Nvidia ผู้ผลิตชิป AI รายใหญ่ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 3% ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.03 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่บริษัทสหรัฐฯ มีมูลค่าตลาดทะลุระดับ 5 ล้านล้านดอลลาร์ และทำให้ Nvidia ยังคงครองตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก

หุ้น Caterpillar ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างรายใหญ่ของสหรัฐฯ ทะยานขึ้น 11.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 3

หุ้น Meta Platforms, หุ้น Microsoft และหุ้น Alphabet ปรับตัวผันผวน ก่อนที่ทั้ง 3 บริษัทจะรายงานผลประกอบการหลังตลาดปิดทำการ

ข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า ขณะนี้มีบริษัทในดัชนี S&P500 จำนวน 222 รายที่ได้รายงานผลประกอบการแล้ว โดยในจำนวนนี้มี 84.2% ที่รายงานผลประกอบการสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ