ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันศุกร์ (31 ต.ค.) โดยตลาดชะลอตัวหลังจากปรับขึ้นทำสถิติสูงสุดเมื่อต้นเดือนนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงระมัดระวังก่อนการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในเดือนพ.ย. และงบประมาณของรัฐบาลที่จะประกาศในช่วงปลายเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ระดับ 9,717.25 จุด ลดลง 42.81 จุด หรือ -0.44%
ดัชนี FTSE 100 แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลายครั้งในเดือนต.ค.
หุ้นกลุ่มเภสัชกรรม การเงิน และเหมืองแร่ เป็นกลุ่มที่ทำผลงานได้ดีในเดือนต.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดที่แข็งแกร่งของบริษัทต่าง ๆ เช่น HSBC และ GSK
สัญญาณเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำช่วยเพิ่มความคาดหวังว่า ธนาคารกลางอังกฤษอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่ในระดับโลก ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เริ่มคลี่คลาย รวมถึงท่าทีผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก็ช่วยหนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเช่นกัน
นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางอังกฤษจะยังคงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานไว้ในเดือนพ.ย. แต่มีแนวโน้มจะปรับลดในเดือน ธ.ค. ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย LSEG
นักวิเคราะห์จาก City Index ระบุว่า ธนาคารกลางอังกฤษที่มีท่าทีผ่อนคลายมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงก่อนการประกาศงบประมาณและความเป็นไปได้ของการขึ้นภาษี อาจส่งผลดีต่อดัชนี FTSE
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจนั้น บริษัทสินเชื่อ Nationwide รายงานว่า ราคาบ้านในอังกฤษปรับตัวขึ้นในเดือนต.ค. สะท้อนถึงความต้องการในตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งเริ่มฟื้นตัวก่อนการประกาศงบประมาณของ ราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีคลังที่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นภาษี