ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดในแดนลบ ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หลังตลาดพุ่งขึ้นอย่างมากวานนี้
ณ เวลา 21.41 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลบ 54.26 จุด หรือ 0.11% สู่ระดับ 47,256.74 จุด
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดวานนี้ หลังศาลฎีกาสหรัฐแสดงความสงสัยต่อความชอบด้วยกฎหมายของภาษีศุลกากรที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกเก็บจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้ตลาดมีความหวังว่าศาลอาจมีคำสั่งเพิกถอนมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่สูงกว่าคาด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ฟื้นตัวขึ้นในวันนี้ หลังดิ่งลงก่อนหน้านี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ของหุ้นในธุรกิจ AI
Challenger, Gray & Christmas ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการจ้างงาน เปิดเผยว่า การประกาศเลิกจ้างพนักงานของภาคเอกชนในสหรัฐพุ่งสูงขึ้นในเดือนตุลาคม เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ทำการปรับโครงสร้างพนักงานให้เหมาะสมกับยุคของ AI ที่กำลังมีการขยายตัว ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในตลาดแรงงาน
Challenger ระบุว่า การปลดพนักงานในเดือนตุลาคมมีจำนวนรวม 153,074 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นถึง 183% จากเดือนกันยายน และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 175% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดสำหรับเดือนตุลาคมนับตั้งแต่ปี 2546
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นภาคส่วนที่มีการปลดพนักงานมากที่สุด ขณะที่อยู่ในช่วงของการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อตอบรับการนำ AI เข้ามาใช้งาน โดยบริษัทเทคโนโลยีประกาศปลดพนักงาน 33,281 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม ซึ่งมากกว่าเดือนกันยายนเกือบ 6 เท่า