ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ (7 พ.ย.) ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลงในวันพฤหัสบดี (6 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีมูลค่าสูงเกินจริงและอาจเผชิญกับภาวะฟองสบู่
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 50,524.31 จุด ลดลง 359.37 จุด หรือ -0.71%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 26,350.74 จุด ลดลง 135.16 จุด หรือ -0.51% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,994.32 จุด ลดลง 13.44 จุด หรือ -0.34%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.46% ขณะที่ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 0.27%
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดร่วงลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI โดยหุ้นกลุ่มนี้ดิ่งลงอย่างหนัก ซึ่งรวมถึงหุ้น Nvidia, Microsoft , Palantir Technologies , Broadcom และ Advanced Micro Devices
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดแรงงานของสหรัฐฯ หลังจาก Challenger, Gray & Christmas ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการจ้างงาน เปิดเผยว่า การประกาศเลิกจ้างพนักงานของภาคเอกชนในสหรัฐฯ มีจำนวนรวม 153,074 ตำแหน่งในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นถึง 183% จากเดือนก.ย. และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 175% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดสำหรับเดือนต.ค.นับตั้งแต่ปี 2546 เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ทำการปรับโครงสร้างพนักงานให้เหมาะสมกับยุค AI ที่กำลังมีการขยายตัว ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในตลาดแรงงาน
นักลงทุนจับตาข้อมูลการค้าของจีนในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายอดส่งออกเดือนต.ค.ของจีนจะเพิ่มขึ้นเพียง 3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนก.ย.ที่พุ่งขึ้น 8.3% และคาดว่ายอดนำเข้าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.2% ชะลอตัวลงจากเดือนก.ย.ที่เพิ่มขึ้น 7.4%