ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลงในวันนี้ (7 พ.ย.) หลังจากที่ปิดแดนบวกมาสองวันติดต่อกัน โดยภาวะการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ถูกกดดันจากข้อมูลยอดส่งออกของจีนในเดือนต.ค. ที่ลดลงสวนทางคาดการณ์ ขณะที่การนำเข้าชะลอตัวลงอย่างมาก นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังถูกเทขายตามทิศทางหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดต่างประเทศ ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าหุ้นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีมูลค่าสูงเกินจริงและอาจเผชิญกับภาวะฟองสบู่แตก
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดที่ระดับ 3,997.56 จุด ลดลง 10.20 จุด หรือ -0.25%
สำนักงานศุลกากรของจีน (GAC) เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกปรับตัวลง 1.1% ในเดือนต.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3% นอกจากนี้ ยอดส่งออกของจีนยังปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปีหรือนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2567 เทียบกับในเดือนก.ย.ที่ยอดส่งออกพุ่งขึ้น 8.3% ซึ่งแข็งแกร่งสุดในรอบ 6 เดือน
ส่วนยอดนำเข้าเพิ่มขึ้นเพียง 1% ในเดือนต.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.2% และชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนก.ย.ที่พุ่งขึ้น 7.4% เนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งชะลอตัวลงเป็นเวลานานและตลาดแรงงานที่อ่อนแอลงอย่างต่อเนื่องนั้น ได้ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ของผู้บริโภค
ทั้งนี้ นักลงทุนรอดูข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญที่จะประกาศในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจจีน
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นจีนยังได้รับแรงกดดันตามตลาดโลกจากความกังวลรอบใหม่เกี่ยวกับมูลค่าหุ้นกลุ่ม AI ที่อยู่ในระดับสูง โดยหุ้นลบนำโดย Foxconn Industrial -4.6%, Zhongji Innolight -1.4%, Zhejiang Sanhua -3.9%, Eoptolink Technology -1.9% และ Cambricon Technologies -3.2%