ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดร่วงลงในวันนี้ (7 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีมูลค่าสูงเกินจริงและอาจเผชิญกับภาวะฟองสบู่แตก ขณะที่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาอาจกลับมาปะทุอีกครั้ง
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดที่ระดับ 3,953.76 จุด ลดลง 72.69 จุด หรือ -1.81%
ดัชนี KOSPI ผันผวนอย่างหนักในสัปดาห์นี้ โดยปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทะลุ 4,200 จุดในวันจันทร์ (3 พ.ย.) ก่อนที่จะพลิกปิดร่วงลงเกือบ 3% ในวันพุธ (5 พ.ย.)
หุ้น Samsung Electronics ลดลง 1.31%, SK hynix ลดลง 2.19%, Hyundai Motor ปรับตัวลง 1.86%, Kia ลบ 1.7%, LG Energy Solution ลบ 1.38% และ Samsung SDI ร่วงลง 4.97%
หุ้น HD Hyundai Electric ดิ่งลง 6.51%, Korea Electric Power ร่วงลง 4.34%, Doosan Enerbility ลดลง 1.77%, Hanwha Aerospace ร่วงลง 4.85% และ LIG Nex1 ดิ่งฮวบ 16.53%
นักลงทุนกังวลว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ จะปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังมีรายงานว่าทำเนียบขาวตัดสินใจไม่อนุญาตให้อินวิเดีย (Nvidia) ขายชิป AI รุ่นเล็ก (scaled-down) ตัวใหม่ล่าสุดให้กับจีน
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากแนวโน้มตลาดแรงงานของสหรัฐฯ หลังจากที่ Challenger, Gray & Christmas ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการจ้างงาน เปิดเผยว่า การประกาศเลิกจ้างพนักงานของภาคเอกชนในสหรัฐฯ มีจำนวนรวม 153,074 ตำแหน่งในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นถึง 183% จากเดือนก.ย. และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 175% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดสำหรับเดือนต.ค.นับตั้งแต่ปี 2546 เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ปรับโครงสร้างพนักงานให้เหมาะสมกับยุค AI ที่กำลังมีการขยายตัว ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในตลาดแรงงาน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนเกิดความกังวลว่ายอดส่งออกของเกาหลีใต้อาจปรับตัวลดลงเช่นเดียวกับยอดส่งออกของจีน หลังจากที่สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกปรับตัวลง 1.1% ในเดือนต.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3% นอกจากนี้ ยอดส่งออกของจีนยังปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2567 เทียบกับในเดือนก.ย.ที่ยอดส่งออกพุ่งขึ้น 8.3% ซึ่งแข็งแกร่งสุดในรอบ 6 เดือน