ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันศุกร์ (7 พ.ย.) โดยหุ้น IAG เป็นหนึ่งในตัวฉุดตลาดหลัก หลังการซื้อขายที่ผันผวนในสัปดาห์นี้ซึ่งถูกกำหนดโดยการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และการตัดสินใจกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,682.57 จุด ลดลง 53.21 จุด หรือ -0.55% และลดลง 0.4% ในรอบสัปดาห์นี้
หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและนันทนาการร่วงลง 3.1% โดยหุ้น IAG ร่วง 11.6% ทำจุดต่ำสุดรายวันนับตั้งแต่ปี 2564 หลังบริษัทเจ้าของ British Airways รายนี้เตือนถึงความอ่อนแอของตลาดการบินสหรัฐฯ
หุ้น Rightmove ร่วงลง 12.5% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2566 หลังแพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ของสหราชอาณาจักรรายนี้เตือนการเติบโตของผลกำไรปีหน้าอาจชะลอตัว ขณะที่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์โดยรวมลดลง 1%
หุ้นธนาคารขนาดใหญ่ก็เป็นอีกกลุ่มที่ฉุดตลาดโดยลดลง 1.2% ขณะที่หุ้น HSBC และ Barclays ลดลงประมาณ 1%
ส่วนหุ้นบวกนั้น หุ้น ITV พุ่งขึ้น 16.6% หลังบริษัทระบุว่ากำลังเจรจาเบื้องต้นกับ Sky บริษัททีวีแบบเสียเงินในเครือ Comcast เกี่ยวกับการขายธุรกิจโทรทัศน์มูลค่า 1.6 พันล้านปอนด์ (2.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ในสัปดาห์นี้ BoE คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลักไว้ที่ 4% ส่งผลให้ปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.2% หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือนและปรับขึ้นเล็กน้อยในรอบสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์รายใหญ่หลายแห่ง เช่น มอร์แกน สแตนลีย์ และซิตี้กรุ๊ป คาดว่า BoE อาจปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.
แม้ตลาดลอนดอนปรับตัวลงในสัปดาห์นี้ แต่ดัชนี FTSE 100 ยังคงเป็นหนึ่งในดัชนีที่ทำผลงานดีที่สุดในยุโรป ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวผันผวนจากความกังวลเรื่องมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีและโอกาสที่ลดลงสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเดือนธ.ค.
หนังสือพิมพ์เดอะไทมส์รายงานว่า ราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีคลังอังกฤษได้แจ้งต่อหน่วยงานตรวจสอบงบประมาณของประเทศว่า การขึ้นภาษีบุคคลธรรมดาเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่เตรียมประกาศในงบประมาณวันที่ 26 พ.ย.นี้